ส่องเรือ “เวสเตอร์ดัม” หรูหราแค่ไหน

เมื่อเรือสำราญดูจะไม่สำราญต้องลอยเท้งเต้งอยู่กลางทะเล สภาพไม่ต่างจากเรือผู้อพยพ ไม่มีประเทศใดให้ขึ้นเทียบท่า  และกว่าประเทศที่ 5 ประเทศกัมพูชาจะอ้าแขนรับให้ขึ้นท่าเทียบเรือที่ สีหนุวิลล์ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังทิ้งให้ผู้โดยสารและลูกเรือกว่า 2,200 คน ของเรือสำราญ เวสเตอร์ดัม (Westerdam)  ต้องลอยลำอยู่กลางอ่าวกว่า 2 สัปดาห์ ก่อนหน้านั้นฟิลิปปินส์ ไต้หวัน ญี่ปุ่น  รวมถึงไทย ไม่อนุญาตให้เทียบท่าเนื่องจากกลัวติดเชื้อไวรัสโควิด-19

“เวสเตอร์ดัม”  MS  Westerdam เป็นเรือสำราญชื่อดังระดับโลกมีความยาว 285 เมตร สูง 11 ชั้น มีลูกเรือ 800 คน ขึ้นทะเบียนสัญชาติเนเธอร์แลนด์ เป็นของ Holland America Line  ที่ทำธุรกิจนี้มากว่า 140 ปี มีเรือสำราญระดับพรีเมียมอยู่ 15 ลำ มีเส้นทางเดินทางรอบโลกครอบคลุม 7 ทวีป ตั้งแต่อลาสกา แคริบเบียน เบอร์มิวดา แคนาดา ยุโรป รวมถึงเอเชีย เป็นต้น
 

ในบรรดานักเดินทางท่องเที่ยวจะรู้ดีการเดินทางท่องเที่ยวทางเรือสำราญข้ามโลก ข้ามทวีปได้นั้นต้องเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก ชอบความหรูหรา มีเวลาเหลือเฟือ กับการรอนแรมท่องเที่ยวไปตามประเทศต่าง ๆ และส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ รวมทั้งคู่รัก  ที่ชื่นชอบในความหรูหรามีระดับ
 

ทั้งการแต่งกาย เสื้อผ้าหน้าผม เครื่องประดับ ดินเนอร์แต่ละมื้อก็ต้องพิถีพิถัน ในการแต่งกาย  สุภาพสตรีสวมเดรสหรือชุดราตรี แบล็กไท สำหรับผู้ชาย ซึ่งนั่นหมายถึงราคาที่ไม่ธรรมดาตามมาด้วย เพราะนอกจากจะต้องจ่ายค่าห้องพักบนเรือแล้วยังต้องมีค่าเดินทางตั๋วเครื่องบินจากประเทศต้นทางกว่าจะมาลงเรืออีกจำนวนหนึ่งด้วย โดยราคาเริ่มต้นสำหรับค่าเรือ 4 คืน สำหรับเส้นทางเอเชียที่ขายผ่านเว็บจะเริ่มที่ 559 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อคน หรือราว 18,000 บาท เป็นโปรแกรมสั้น ๆ แต่ส่วนใหญ่จะอยู่บนเรือกันเกิน 10 วัน ซึ่งราคาจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว

อีกทั้งการใช้เวลาอยู่บนเรือหลายวัน บริการบนเรือจึงสำราญจริง ๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายหรูหรา 5 ดาวไม่ต่างจากโรงแรมชั้นหนึ่ง เพียงแต่เคลื่อนที่ได้  ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำ  ช็อปปิ้ง  โรงภาพยนตร์  กาสิโน มินิกอล์ฟ กิจกรรมต่าง ๆ ห้องสมุดขนาดใหญ่ การสอนทำอาหารจากสถาบันที่มีชื่อเสียง  เอ็นเตอร์เทนเมนต์  คอนเสิร์ต ที่สลับสับ เปลี่ยนกัน เอาใจกลัวเศรษฐีเบื่อ

กลุ่มนักท่องเที่ยวเรือสำราญเป็นเป้าหมายของการท่องเที่ยวสำหรับประเทศไทย โดยไทยมีแผนสร้างท่าเทียบเรือขนาดใหญ่ไว้รองรับนักท่องเที่ยวทางเรือสำราญโดยเฉพาะ เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ใช้จ่ายมากกว่านักท่องเที่ยวปกติหลายเท่า และภูมิภาคเอเชียก็มีเส้นทางเดินเรือสำราญแวะผ่านหลายประเทศ โดยมีพอร์ตใหญ่อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์

โดยเรือสำราญ เวสเตอร์ดัม ออกเดินทางจากสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา กระทั่งรับผู้โดยสารที่ฮ่องกง เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ก่อนถูกประเทศฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และญี่ปุ่น ไม่อนุญาตให้เทียบท่า เนื่องจากเกรงว่าจะมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาบนเรือ ซึ่งกำหนดการเดิมจะต้องเทียบท่าที่ท่าเรือโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ แต่ทางญี่ปุ่นปฏิเสธ และอ้างว่าได้รับรายงานว่าพบผู้โดยสารบนเรือมีผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสโคโรนา ถึงแม้ว่าบริษัทจะยืนยันว่าไม่มีผู้ติดเชื้อก็ตาม

โดยมีกระแสข่าวว่าจะมาขึ้นที่ท่าเรือแหลมฉบังของไทย ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้  แต่ก็ถูกรัฐบาล เรียงหน้าปฏิเสธไม่ว่าจะเป็นรองนายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "สั่งการแล้ว ไม่อนุญาตให้เทียบท่า"  

กระทั่ง “ฮุน เซ็น” ผู้นำกัมพูชาได้รับเรือเทียบท่าที่สีหนุวิลล์โดยระบุว่าเห็นแก่มนุษยธรรม เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อส่งผู้โดยสารกลับประเทศบ้านเกิดต่อไป !!