สั่งเบรกส่งออก หน้ากากอนามัย 18 ล้านชิ้น

12 ก.พ. 2563 | 10:38 น.

พาณิชย์เข้มสั่งระงับส่งออกหน้ากากอนามัย หลังเอกชนขอส่งออกกว่า 40 รายรวมกว่า 18.5 ล้านชิ้น ลั่นยังไม่ให้มีการส่งออก หลังในประเทศยังมีความต้องการสูง พร้อมเร่งประสานผู้ผลิตเร่งจัดส่งสินค้าก่อนกระจายให้กับหน่วยงานที่จำเป็นเร่งด่วน ล่าสุดจับผู้ขายโก่งราคาแล้ว 19 ราย 

 

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า  ขณะนี้มีผู้มาขออนุญาตเพื่อส่งออกหน้ากากอนามัยนับตั้งวันทำงานราชการ(วันที่ 6-7 ก.พ. และ 11 ก.พ.2563 ) แล้ว 40 ราย จำนวน จำนวนที่ขออนุญาตส่งออกประมาณ 18.5 ล้านชิ้น ส่วนวันที่ 12 กุมภาพันธ์ยังไม่ได้สรุปตัวเลข ทั้งนี้กรมฯ ยังไม่ได้อนุญาตให้รายใดทำการส่งออก เพราะต้องการบริหารจัดการให้ในประเทศมีสินค้าเพียงพอใช้ก่อน

สั่งเบรกส่งออก  หน้ากากอนามัย 18 ล้านชิ้น

นอกจากนี้ได้ประสานผู้ผลิต เพื่อให้จัดส่งหน้ากากอนามัยมา ในฐานะเป็นศูนย์บริหารจัดการหน้ากากอนามัย เพื่อที่จะนำไปกระจายให้กับหน่วยงานและผู้ที่จำเป็นต้องใช้ และนำไปจำหน่ายให้กับประชาชนที่มีความต้องการใช้ก่อน โดยตั้งเป้าขอให้ผู้ผลิตจัดส่งให้วันละ 6 แสนชิ้น และจะกระจายต่อให้กับองค์การเภสัชกรรมวันละ 2 แสนชิ้น การบินไทยวันละ 1.8 หมื่นชิ้น สมาคมร้านขายยาวันละ 2.5 หมื่นชิ้น และกระทรวงพาณิชย์ขายเองวันละ 2 แสนชิ้น ทั้งเปิดจำหน่ายที่กระทรวงฯ และส่งไปขายในร้านธงฟ้าที่อยู่ในจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้ได้จัดส่งไปแล้ว และจะจัดส่งต่อเนื่อง

สั่งเบรกส่งออก  หน้ากากอนามัย 18 ล้านชิ้น         

“วันนี้(12 ก.พ.)รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังได้เรียกประชุมวอร์รูมหน้ากากอนามัย ร่วมกับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหน้ากากอนามัยขาดแคลน โดยได้กำชับให้ประสานผู้ผลิต เพื่อผลิตสินค้าให้มีเพียงพอต่อความต้องการ โดยตัวเลขล่าสุด โรงงานที่มีอยู่ในไทยน่าจะผลิตได้เดือนละ 35 ล้านชิ้น และขอให้เคลียร์กับผู้ส่งออกว่าจะไม่อนุญาตให้มีการส่งออกในช่วงนี้ เพื่อให้สินค้าในประเทศมีเพียงพอ เพราะประเทศผู้ผลิตอื่น ๆ ก็ห้ามการส่งออกเช่นกัน เพื่อให้คนในประเทศตัวเองมีสินค้าใช้อย่างเพียงพอก่อน”

 

นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจแหล่งวัตถุดิบผลิตหน้ากากอนามัยว่ามีอยู่ที่ใดบ้าง และให้รายงานผลเข้ามาโดยด่วน เพื่อที่จะได้ประสานให้ผู้ผลิตทำการสั่งซื้อและนำมาใช้ในการผลิตหน้ากากอนามัยต่อไป เพราะแหล่งนำเข้าวัตถุดิบสำคัญอย่างจีน เริ่มจำกัดการส่งออก เนื่องจากในจีนเองก็มีความต้องการใช้เพิ่มขึ้น

 

ล่าสุดกรมฯ ได้ทำการจับกุมผู้ค้าหน้ากากอนามัยแล้วรวม 19 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ 14 ราย และต่างจังหวัด 5 ราย ที่ชลบุรี สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และนครปฐม และกำลังตรวจสอบการจำหน่ายหน้ากากอนามัยแพงเกินจริงที่จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง หลังจากได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภค ซึ่งกรมฯ ขอเตือนไปยังผู้บริโภคให้เพิ่มความระมัดระวังในการซื้อสินค้า เพราะอาจจะถูกหลอกลวงได้ จากบางรายโพสต์ขายสินค้า และให้โอนเงินก่อน แต่ไม่มีสินค้าขายจริง