America First ทรัมป์หั่นงบช่วยต่างประเทศ อัดฉีดงบกลาโหม-งานวิจัย

12 ก.พ. 2563 | 08:05 น.

 

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา เสนอแผนค่าใช้จ่ายสำหรับงบประมาณปี 2564 มูลค่า 4.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อสภาคองเกรสต้นสัปดาห์นี้ (10 ก.พ.) โดยมีการของบประมาณด้านกลาโหมเพิ่มขึ้นอีก 0.3% จากงบประมาณปัจจุบัน เป็น 740,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 22.9 ล้านล้านบาท ถือเป็นการของบด้านกลาโหมมูลค่าสูงที่สุดในรอบ 70 ปี พร้อมกันนี้ ยังได้มีการของบประมาณเพิ่มอีก 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 62,380 ล้านบาท) สำหรับโครงการก่อสร้างกำแพงป้องกันพรมแดนติดกับเม็กซิโกระยะที่สอง

America First ทรัมป์หั่นงบช่วยต่างประเทศ อัดฉีดงบกลาโหม-งานวิจัย

ทำเนียบขาวยังออกแถลงการณ์ด้วยว่า  ภายในระยะ 2 ปีข้างหน้าจะเพิ่มงบด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) อีกสองเท่าของงบประมาณปัจจุบัน เนื่องจากการพัฒนาด้านเอไอถือเป็นยุทธศาสตร์ระดับชาติของสหรัฐฯ ทั้งนี้ ศูนย์พัฒนาร่วมเทคโนโลยีเอไอ หรือ Joint AI Center ของสหรัฐฯอยู่ภายใต้สังกัดกระทรวงกลาโหม ปีงบประมาณปัจจุบัน (2563) ได้รับงบสนับสนุน 242 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่สำหรับปีงบประมาณ 2564 จะได้รับความสนับสนุนเพิ่มขึ้นเป็น 290 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 8,990 ล้านบาท  ขณะที่งบประมาณด้านเอไอเพื่อการทหารและการป้องกันประเทศสำหรับปี 2564 จะเพิ่มขึ้นเป็น 459 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 15,190 ล้านบาท)

  America First ทรัมป์หั่นงบช่วยต่างประเทศ อัดฉีดงบกลาโหม-งานวิจัย

 

อย่างไรก็ตาม ผู้นำสหรัฐฯ เสนอปรับลดงบประมาณการให้ความช่วยเหลือด้านต่างประเทศลง 21%  เหลือ 44,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก 55,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐในงบประมาณปี 2563 โดยให้เหตุผลว่าเพื่อนำงบประมาณดังกล่าวไปสนับสนุนโครงการด้านความมั่นคงเพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากประเทศจีนและรัสเซีย

 

ทั้งนี้ ปีงบประมาณ 2564 ของสหรัฐฯ จะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 ตุลาคม 2563 นี้ ทางทำเนียบขาวได้ยื่นร่างงบประมาณเสนอต่อสภาคองเกรสอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา

ยุทโธปกรณ์ความเร็วเหนือเสียงของกองทัพสหรัฐฯ

 

ในส่วนของงบด้านกลาโหม 740,500 ล้านดอลลาร์นั้น แบ่งคร่าวๆเป็นงบของกระทรวงกลาโหม 636,400 ล้านดอลลาร์ และเป็นงบสนับสนุนกองกำลังของสหรัฐฯในต่างแดน หรือที่เรียกกันว่า งบทำสงคราม (war budget) 69,000 ล้านดอลลาร์ ที่เหลือนอกนั้นเป็นงบสนับสนุนการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ซึ่งเป็นโครงการภายใต้การดูแลของกระทรวงพลังงาน และหน่วยงานอื่นๆ

 

เรือโดรน (ไม่ต้องมีทหารประจำการ) ของกองทัพสหรัฐฯที่เอาไว้ติดตามค้นหาเรือดำน้ำ

หากจะแยกย่อยออกไปในส่วนของกระทรวงกลาโหม พบว่าทำเนียบขาวเสนอของบ 15,100 ล้านดอลลาร์สำหรับการซื้อฝูงเครื่องบินรบที่ทันสมัย 115 ลำ 19,300 ล้านดอลลาร์สำหรับเรือรบใหม่ที่ไม่ต้องมีทหารประจำการ 10 ลำ  111 ล้านดอลลาร์สำหรับการพัฒนาบุคลากรสำหรับกองทัพสหรัฐฯในอวกาศ หรือ Space Force และ 14,000 ล้านดอลลาร์สำหรับงานวิจัย พัฒนา ทดสอบ และประเมินเทคโนโลยีใหม่ๆที่จะเป็นนวัตกรรมแห่งอนาคตซึ่งนอกเหนือจากด้านเอไอแล้ว ยังมีนวัตกรรมการสื่อสารในระบบ 5G และอาวุธไฮเปอร์โซนิค (อาวุธความเร็วเหนือเสียง)  เป็นต้น