บสย.ตั้งเป้าค้ำสินเชื่อทะลุแสนล้านปี 63

07 ก.พ. 2563 | 12:30 น.

บสย.เปิดแผนงานปี 63 เดินหน้ามาตรการรัฐ ต่อเติม เสริมทุน สร้างโอกาส ทางการเงิน ปรับโครงสร้างหนี้ ยืดหนี้ SMEs คนตัวเล็ก ดันยอดค้ำฯ 100,500 ล้านบาท

ดร.รักษ์  วรกิจโภคาทร  กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า แผนงานและเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2563 บสย. ภายใต้แนวคิด “ตัวเบา ไร้แผล มีอนา   ตั้งเป้าค้ำประกันสินเชื่อ 100,500 ล้านบาทอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อ (LG) จำนวน 112,921 ฉบับและช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SMEs) รายใหม่ 83,562 รายผ่านมาตรการรัฐ ต่อเติม เสริมทุน SMEs สร้างไทย มุ่งส่งเสริมและสนับสนุน ช่วยผู้ประกอบการเข้าสู่กระบวนการการปรับโครงสร้างหนี้  เติมโอกาสให้ SMEs ที่กำลังจะล้ม ให้ยืนได้ โดยการ ยืดหนี้ พักชำระหนี้ สร้างโอกาสทางการเงิน ช่วย SMEs คนตัวเล็ก ผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อ บสย. SMEs สร้างไทย ต่อเติม เสริมทุน วงเงิน 60,000 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อ 2 ปี ค้ำประกันสูงสุด 10 ปี  ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของนโยบายรัฐบาลที่ได้ให้ความช่วยเหลือไปยังลูกหนี้ที่มีประวัติค้างชำระ แต่ยังมีความตั้งใจดำเนินธุรกิจให้อยู่รอดต่อไป  

บสย.ตั้งเป้าค้ำสินเชื่อทะลุแสนล้านปี 63

                นอกจากนี้ บสย. ยังได้มีการขยายระยะเวลาการค้ำประกันสินเชื่อของ SMEs ที่อยู่ในโครงการ PGS5-7 ออกไปอีก 5 ปี ภายในกรอบวงเงิน 70,000 ล้านบาท โดยขณะนี้มีลูกค้า บสย. ที่อยู่ในระหว่างการรอการอนุมัติ ทั้ง   2 โครงการ จำนวน 5,014 ราย วงเงินรวม 12,539 ล้านบาท โดยปัจจุบัน บสย. ให้การค้ำประกันสินเชื่อไปแล้วกว่า 856,053 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 426,198 ราย และก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบ 1,261,094 ล้านบาท

ปีนี้ บสย. ยังเดินหน้าการขับเคลื่อนองค์กรยกระดับสู่องค์กรรัฐวิสาหกิจชั้นนำ ภายใต้แพลตฟอร์มใหม่ สู่การทรานส์ฟอร์มอย่างเต็มรูปแบบ ชูบทบาทของการเป็นองค์กรแห่งการประสานความร่วมมือ การเชื่อมโยงเงินทุน และโอกาสทางธุรกิจ เพื่อพัฒนาศักยภาพ SMEs และผู้ประกอบการรายย่อยให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนและองค์ความรู้ทั้งระบบ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก พัฒนาองค์กร และผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่ออย่างไม่หยุดยั้ง ยึดมั่นในธรรมาภิบาล ดำเนินงานด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้  สนับสนุน สร้างโอกาส ทางการเงิน ผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงสินเชื่อ

                ส่วนผลดำเนินงาน บสย. ในปี 2562 มีการเติบโตทุกมิติ ทั้งด้านยอดค้ำประกันสินเชื่อ รายได้ และผลกำไร สะท้อนความแข็งแกร่งภายในขององค์กร และการทำงานเชิงรุกมุ่งประสิทธิภาพและประสิทธิผล ช่วยผู้ประกอบการ SMEs ข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น ดังนี้ 1. ปิดยอดค้ำประกันสินเชื่อ จำนวน 90,628 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2เทียบกับปี 2561 จำนวน 88,878ล้านบาท เติบโตท่ามกลางสภาวะสินเชื่อ SMEs ที่หดตัว 2โดยยอดค้ำประกันสินเชื่อ ปี 2562 มาจากการอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGSจำนวน 38,010 ล้านบาท โครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGSจำนวน 36,681 ล้านบาท  โครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS Renew จำนวน 7,281 ล้านบาท  และ โครงการ Micro3 จำนวน 5,609 ล้านบาท และอื่นๆ 

บสย.ตั้งเป้าค้ำสินเชื่อทะลุแสนล้านปี 63

                ​ยอดค้ำประกันสินเชื่อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากการปิดตัวโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGSในเดือนสิงหาคม 2562 ซึ่งพบว่ายอดการอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อเพิ่มขึ้น โดยในระหว่างเดือน ม.ค.-ส.ค. 2562 ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 5,668 ล้านบาทต่อเดือน  ขณะที่ค่าเฉลี่ยเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2562 อยู่ที่ 11,378 ล้านบาท

,2.อนุมัติหนังสือค้ำประกัน (LG)  91,489 ฉบับ เพิ่มขึ้น 13.1เทียบกับปี 2561 จำนวน 80,917 ฉบับ นอกจากนี้เมื่อเดือนมกราคม 2563 ที่ผ่านมา บสย. ยังได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ โดยออกหนังสือค้ำประกันสินเชื่อ (LGจำนวน 14,465 ฉบับ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่ก่อตั้ง บสย. และ3.ช่วยลูกค้ารายใหม่ จำนวน 70,129 ราย เพิ่มขึ้น 27.6เทียบจากปี 2561  จำนวน 54,969 ราย 

บสย.ตั้งเป้าค้ำสินเชื่อทะลุแสนล้านปี 63

                ​ด้านผลประกอบการ บสย. ปี 2562 มีรายได้รวม 7,793.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.23% และมีกำไรสุทธิ  754 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับปี 2561 มีกำไรสุทธิ 595 ล้านบา โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากความสามารถในการบริหารกองทุน การบริหารเงินลงทุน และ รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อจากการทำงานเชิงรุก ช่วยผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงสินเชื่อ 

                กิจกรรมไฮไลท์แห่งปี 2562 ได้แก่ มหกรรมคลินิคหมอหนี้ และโครงการหมอหนี้ บสย. ซึ่งเป็นโครงการให้ความรู้และคำปรึกษาด้านการเงิน ภายใต้แนวคิด เติมทุน เติมความรู้ เติมคุณภาพชีวิต  ที่ดำเนินการระหว่างเดือน กันยายน-พฤศจิกายน 2562 มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 4,000 ราย มีผู้เข้ารับคำปรึกษาผ่านคลินิกหมอหนี้ บสย. จำนวน 1,119 ราย และมีความต้องการสินเชื่อกว่า 3,000 ล้านบาท และสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้จำนวน 338 รายคิดเป็นวงเงินสินเชื่อ จำนวน 2,131 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีจำนวนผู้ประกอบการ SMEs ที่ขอรับคำปรึกษาผ่านช่องทาง เฟสบุ๊ค เว็บไซต์ และ Line : @ doctor.tcg เป็นจำนวน 10,477 ราย

                นายรักษ์ กล่าวต่อไปอีกว่า  ผลสำเร็จของ บสย. ในปี 62 ที่โดดเด่นด้านการติดตามหนี้  คือการปรับกลยุทธ์การบริหารจัดการหนี้ แบบผ่อนคลาย ภายใต้กลยุทธ์การสร้างแรงจูงใจ เพื่อช่วยลูกหนี้ที่กำลังประสบปัญหาการชำระล่าช้า เข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ การยืดหนี้ และพักชำระหนี้  แทนการฟ้อง  โดยลดการจ่ายหนี้ก้อนแรกจากเดิม 10เหลือเพียง 1%เปิดโอกาสให้ลูกหนี้ขอรับการประนอมหนี้มากขึ้นโดย บสย. สามารถให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs กลุ่มนี้ ได้ถึง 4,029 ราย สูงจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 856 ราย