จากมติศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก ให้สภาผู้แทนราษฎรลงมติร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ในวาระ 2-3 ใหม่ จากนั้นให้ส่งวุฒิลงมติอีกใหม่อีกรอบ ทำให้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2563 ยังไม่โมฆะ
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส กล่าวกับ ฐานเศรษฐกิจ " ผลวินิจฉัยของศาลฯที่อออก ถือเป็นผลดีระดับกลาง ๆต่อตลาดหุ้น แต่ไม่น่าจะส่งผลต่อ SET Index มากนัก ขึ้นกับกระบวนการของสภาฯหลังจากนี้ จะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมได้เมื่อไร ซึ่งมี 2 กรณีคือ เข้าแบบเร่งด่วนก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือต้องไปรอเปิดสมัยวิสามัญในเดือนมีนาคม แต่คาดว่ารัฐจะเร่งดำเนินการ เนื่องจากล่าช้าไปมากแล้ว
ตลาดหุ้นปิดวันนี้น่าจะตอบสนองในเชิงบวกได้บ้าง จากความคืบหน้าของร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 63 แต่คาดว่าไม่ได้มาก ขั้นตอนจากนี้เมื่อศาลฯวินิจฉัยออกมา ก็ต้องไปเริ่มทำวาระ 2-3 ใหม่ ซึ่งต้องดูว่าสภาจะไปบรรจุญัตติเข้าไปในช่วงไหน เนื่องจากยังมีเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจค้างอยู่ในสภา แต่หากบรรจุญัตติได้ ก็แสดงว่า พ.ร.บ.งบประมาณ ล่าช้าเต็มที่น่าจะไม่เกินไตรมาส1/63 หรือล่าช้า 5-6 เดือนของปีงบประมาณ ( นับจากต.ค. 62 ถึงมี.ค. 63 )
บล.กรุงไทย ซีมิโก้ ระบุว่า ข่าวดังกล่าวเป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทยในระยะสั้น เพราะผลตัดสินจะส่งผลให้ผลกระทบต่อการเบิกจ่ายงบประมาณรัฐบาลปี 2563 โดยเฉพาะงบลงทุน 6.5 แสนล้านบาท ล่าช้าไม่นาน และส่งผลให้คาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้มีความเสี่ยงขาลงจำกัด และเป็นแนวโน้มเชิงบวกต่อราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง โดยเฉพาะ CK STEC UNIQ ITD
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง มองว่า เป็นบวกต่อการใช้จ่ายของภาครัฐ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่ม รับเหมาก่อสร้าง และนิคมอุตสาหกรรม