เครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่กำหนดด้วยกรอบศาสนา : ตราขนแกะทองคํา Golden Fleece

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่กำหนดด้วยกรอบศาสนา: ตราขนแกะทองคำ Gloden Fleece หลายท่านคงเคยได้ยินกิตติศัพท์ของขนแกะทองคำ ซึ่งเปนที่ลือนามของฝ่ายฝรั่งมังค่าว่าเปนของวิเศษมีค่าสูงนัก เหล่าอัศวินยุคเก่าทั้งหลายจะรู้สึกเปนเกียรติยศยิ่งใหญ่หากได้เปนสมาชิกแห่งเครื่องอิสริยาภรณ์ที่ประกอบขนแกะทองคำ

ขนแกะทองคำ (golden fleece) คือ อะไร?ไม่ใช่ว่าไปเจอแกะเข้าตัวหนึ่งเเล้วจีบนิ้วกระตุกขนแกะนั้นมาเส้นหรือกระจุกนึงเสียเมื่อไร แต่ฟลีซซที่ว่า นี่คือขนแกะที่เลาะออกมาโดยหนังแกะทั้งผืน! แบบว่าใหญ่จนคลุมตัวคนได้ก็แล้วกันเหตุไรจึงเปนที่น่ายกย่อง เมื่อได้ครอบครอง?ระบบความคิดฝ่ายตะวันตก ตัวขนแกะทองคำนั้นมีค่าสูงกว่าทองคำที่เปนขนแกะ เนื่องเพราะ เปนสัญลักษณ์ของสิทธิ์การเปนกษัตราธิราชเจ้า โดยชอบธรรมของวงศ์กษัตริย์ฝ่ายฝรั่งไหงเปนอย่างนั้น? ก็ต้องเท้าความกันตั้งแต่ปกรณัมเดิมเรื่องของเจสันกับขนแกะทองคำ ดังที่ อพอลโลเนียส แห่งโรดส์ เขาบันทึกไว้สักสามร้อยปีก่อนคริสตกาล ว่าที่นครไอออนกอส มีเจ้าเมืองชื่อท่านท้าวอีสัน ท้าวอีสันมีลูกคือเจ้าชายเจสัน วันหนึ่ง มีการปฏิวัติรัฐประหารในนคร นำโดยท้าวพีเลียสผู้พระญาติ จับท้าวอีสันปลงพระชนม์ เจ้าชายเจสัน ถูกพระมารดาลักลอบเอาออกนอกนครไปได้ โตขึ้นแล้วเจสันเจ้าชายก็ออกเดินทางมาทวงบัลลังก์ครั้นมาถึงเมืองไอออนกอสที่ราชสมบัติเปนของตนแต่เดิมมา จึงไปเฝ้าท้าวพีเลียส ถามทวงสิริราชสมบัติ อีท่าไหนไม่รู้ เจ้าชายเอ๋ย ไปตกลงกะเขาว่า ถ้าไปตามหาขนแกะทองคำที่อยู่สุดขอบโลก (worlds’s end) มาแสดงได้ล่ะก็ จะยอมคืนสิทธิ์ในราชบัลลังก์ให้!

ซึ่งรับปากแล้วก็ต้องทำ ต้องรวบรวมกำลังผู้คนมากมาย ต่อเรือพายไปหาขนแกะ ระหว่างทางก็เจอทุพภิกขภัย วาตภัย อุทกภัย ไข้ป่า สัตว์ร้าย เทวดาขี้โมโห ภูตพราย คนโซ ผู้มีอาวุธมากมาย ไหนจะแม่น้ำมรณะ ช่องแคบประหลาด ทะเลหฤโหดอีก ทีมเจสันมี 50 คน เรียกตัวเองว่า (ทีม)_อาร์โกนอตตัดตอนมาถึงวันทวงสิทธิ์ เจ้าชายแสดงขนแกะทองคำให้ดูแล้ว แต่ท้าวพีเลียสก็เบี้ยว! แถมส่งคนมาฆ่าอีก_โว๊ะเรื่องราวจะเปนอย่างไรต่อไป_ท่านที่สนใจก็ศึกษาเองได้ ในที่นี้จะกล่าวถึงจำเพาะเหตุที่ขนแกะทองคำได้รับการยกย่องนับถือในเชิงสัญลักษณ์ของการฝ่าฟันความกล้าหาญ และการรักษาสัจจะของเจสัน ดังเล่ามาแต่ต้นเรื่องตานี้จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้ใดครอบครองขนแกะทองคำจะเปนผู้มีเกียรติยศยิ่งอย่างน้อยสามประการดังกล่าว

เครื่องอิสริยาภรณ์สำรับขนแกะทองคำมีมาแต่โบราณกาล อาจนับว่าเก่าแก่ที่สุดของฝ่ายคริสต์ เปนเกียรติยศเสียจนผู้ใดได้เปนสมาชิกจะนำรูปขนแกะนี้ติดตัวไปทุกที่ กษัตริย์สวีเดนในอดีต ทรงได้รับการประสาทเกียรติคุณเปนอัศวินแห่งอิสริยาภรณ์ขนแกะทองคำเมื่อคราวสร้างตราแผ่นดินราชอาณาจักรยังห้อยสัญลักษณ์ขนแกะทองคำในตราแผ่นดินสวีดิชนั้น

ประธานแห่งเครื่องราชอิสริยภรณ์ขนแกะทองคำนี้ ด้วยเหตุความไม่ลงรอยในการครอบครองราชอาณาจักร ราชสมบัติและการสืบตระกูล ได้แบ่งออกเปนสองสายสายหนึ่งเคร่งครัดในคติแห่งอิสริยาภรณ์มาก คือ อาร์ค ดยุค แห่งออสเตรีย ในฐานะประมุขแห่งราชวงศ์ฮับส์บวร์ก เปนประธานจะสงวนเครื่องราชสำรับนี้ไว้แต่คริสตศาสนิกชนเท่านั้น (จำเพาะโรมันคาทอลิกด้วย) 

อีกสายหนึ่ง มีสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งสเปญ เปนประธาน จำเพาะจะพระราชทานแต่ผู้มีเกียรติคุณเปนที่น่ายกย่องและจดจำ 

เมื่อปี 2549 สมเด็จพระราชาธิบดี ฮวน ฆาลอส แห่งสเปญโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระราชินีโซเฟียเชิญอิสริยภรณ์ขนแกะทองคำมาถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

ส่วนข้อที่ว่าขนแกะทองคำมีจริงไหม อันนี้ก็ตอบได้ว่ามีหลายสำนักความคิด ซึ่งน่าจะแกะรอยจากที่อยู่เริ่มแรกคือ ดินแดนสุดขอบโลกซึ่งบางท่านว่า ชะรอยจะอยู่ที่อัฟกานิสถานปัจจุบัน เนื่องจากไกลโขจากเมืองในปกรณัมกรีก และที่บริเวณแม่น้ำออกซุส แถวนั้น ประชากรนิยมร่อนทองคำที่ไหลมากับตะกอนแม่น้ำ 

โดยใช้ ฟลีสส ของแกะ มาทำหน้าที่ดักตะกอนทอง โดยทำกันมาแต่ดึกดำบรรพ์ ก็น่าเชื่อว่าขนแกะธรรมดาก็กลายเปนขนแกะทองคำด้วยเปื้อนฝุ่นตะกอนทองเข้าฉะนี้ อันว่าแม่น้ำออกซุสนี้ก็เปนแม่น้ำเก่าแก่ ปัจจุบันพวกไม่ชอบของเก่าแก่ก็เปลี่ยนชื่อซะเปนอามงอามู อะไรสักอย่าง 

มันยาวมาก สองพันกว่ากิโลเมตร เข้าลักษณะเค้าแม่น้ำโขง_แม่น้ำนานาชาติมีการค้นพบรูปทอง_รูปพรรณ สร้างสรรค์ต่างๆ ที่วัตถุดิบมาจากทองออกซุส เยอะแยะโบราณคดี

ทว่าชนบางเหล่า “อิน” กับขนแกะทองคำมากกว่า และรู้ดีว่าเรื่องพรรค์นี้เข้าไปจำในสมองคนเปน cognition/cognitive เสียเเล้ว เมื่อร้อยกว่าปีก่อน_จะสองร้อยปีอยู่รอมมะร่อ 

บรู๊ค ส บราเธอร์ ร้านเสื้อผ้าปราณีตของประดามหาวิทยาลัยไอวี่ลีค หยิบเอา ขนแกะทองคำมาเปนตราสินค้าของตัวหรู ดูดี เชียวนะลองซื้อมาผ้าผูกคอมาผูกดูก็มิได้นุ่มกระเดือกเท่าของอิตาเลี่ยนฝรั่งเศส ไหมแท้แต่อย่างไรการนำตราขนแกะมาใช้ก็เปนความหมายของ อิสริยะ_อาภรณ์ เสื้อผ้าอันมีเกียรติเสียมากกว่า

หน้า 27 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40  ฉบับที่ 3,547 วันที่ 9 - 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563