ผ่า 2 ทางออกศาลรธน.วินิจฉัย“พรบ.งบ63”

07 ก.พ. 2563 | 01:00 น.

เปิด 2 แนวทางศาลรธน.วินิจฉัยร่างพ.ร.บ.ประมาณ 2563  “ร่างก.ม.ตกไปทั้งฉบับ-ร่างก.ม.เสียไปเฉพาะมติที่เสียบบัตรแทนกัน”


วันนี้ (7 ก.พ.63) เวลา 13.30 น. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน ได้นัดประชุมเพื่อแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือและลงมติ ในคำร้องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งความเห็นของส.ส.ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) ว่า ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ตราขึ้นโดยถูกต้องตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญหรือไม่

สำหรับคำร้องของประธานสภาฯ ที่ส่งถึงศาลรัฐธรรมนูญนั้น เกิดจากส.ส.ฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน ได้หนังสือที่ส.ส.เข้าชื่อกันเพื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยใน 3 ประเด็น คือ 

1.กระบวนการร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ขัดหรือแย้งกับหลักการการออกเสียงลงคะแนนตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 120 หรือไม่ 

2.หากมีปัญหาจะมีปัญหาทั้งฉบับ หรือเฉพาะมาตราที่มีปัญหา 

และ 3.จะดำเนินการในแต่ละกรณีต่อไปอย่างไร
 

 

 

สำหรับผลของคำวินิจฉัยเรื่องนี้ คาดการณ์ว่าสามารถออกมาได้ใน 2 แนวทาง คือ 

1.ร่างกฎหมายตกไปทั้งฉบับ

2.ร่างกฎหมายเสียไปเฉพาะมติที่เสียบบัตรแทนกัน

 

 

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 จะเป็นโมฆะหรือไม่ว่า รัฐบาลเตรียมการและนัดแนะกับสำนักงบประมาณไว้ก่อนแล้ว มีหลายทางเลือก  หากจำเป็นต้องอาศัยสภาฯ ในช่วงปิดสมัยประชุม ก็ต้องเปิดสมัยประชุมวิสามัญ แต่หากไม่ถึงขั้นนั้น ก็ดำเนินการตามคำวินิฉัยของศาล แต่ยังไม่ทราบว่าศาลจะวินิจฉัยอย่างไร 


อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร รัฐบาลก็จะดำเนินการไม่ให้เกิดความล่าช้าเสียหาย และได้เตรียมแนวทางปฏิบัติตามไว้ทุกทาง 


ส่วนจำเป็นต้องเปิดประชุมวิสามัญเพื่อพิจารณา 3 วาระรวดหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปคิดถึงขั้นนั้น เมื่อศาลกรุณาพิจารณาให้โดยเร็วแล้ว ทุกฝ่ายก็ไม่ควรล่าช้าในการปฏิบัติตาม เพราะศาลวินิจฉัยเร็วแล้ว ถ้าเราช้าอีก มันจะไม่งาม ข้อสำคัญเมื่อศาลวินิจฉัยมาแล้ว ขอให้เข้าใจว่าศาลให้ปฏิบัติอย่างไร เพราะศาลคงไม่กำหนดเป็นขั้นตอนให้ปฏิบัติตาม เราต้องอ่านคำวินิจฉัย เพื่อถอดรหัสให้ได้ว่าจะปฏิบัติอย่างไร เมื่อเราเตรียมการไว้ทุกทางก็น่าจะปฏิบัติได้  


“ศาลวินิจฉัยวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ส่วนวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์ เป็นวันหยุดราชการ มีเวลาที่ทุกฝ่ายจะได้เตรียมการไปสู่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี จะทำอย่างไรก็ทำกัน เช่น ศาลบอกว่าใช้ไม่ได้หมดทั้งฉบับ วันประชุมคณะรัฐมนตรีก็เสนอใหม่ ถ้าศาลวินิจฉัยว่าใช้ได้ เรียบร้อย ทุกอย่างก็จบ แต่ก็ไม่คิดว่าศาลจะวินิจฉัยเช่นนั้น หรือศาลบอกให้แก้ไขด้วยวิธีการอย่างไร ก็ปฏิบัติตามนั้น” นายวิษณุ ระบุ
 

ต้องรอลุ้นกันว่าในที่สุดแล้วศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยออกมาเป็นไปในแนวทางใด และเป็นผลดี หรือผลเสีย ต่อร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 อย่างไร บ่าย ๆ วันนี้ คงได้รู้กัน...