สมคิดจี้ ธปท.คุมแบงก์พาณิชย์ลดดอกเบี้ย

ในงานสัมมนา ถอดรหัสเศรษฐกิจปี 2020 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาไทยผ่านวิกฤตมาหลายครั้ง ทั้งโรคระบาดซาร์ส และไข้หวัดนก ปัญหาการเมืองที่หยุดชะงักไปนาน เกิดเกียร์ว่างในการทำงาน การส่งออกได้รับผลกระทบจากปัญหาสงครามการค้าสหรัฐ-จีน และค่าเงินบาทที่แข็งค่าในช่วงที่ผ่านมา ที่ทำให้เศรษฐกิจไทยในช่วงนั้นขยายตัวได้เพียง 1% เท่านั้น แต่ขณะนี้รัฐบาลมีการปฎิรูปเศรษฐกิจในหลายด้าน ทำให้เศรษฐกิจไทยยังเดินหน้าต่อไป ดังนั้นในปีนี้หากเศรษฐกิจจะขยายตัวได้กว่า 2% ก็ถือว่าดีแล้ว 

อย่างไรก็ตามทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันในการประคองเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสถาบันการเงินที่ต้องช่วยลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการอัดเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กระตุ้นให้สถาบันการเงินปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 1% ตามมติคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) เพราะหากธนาคารกลางประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว สถาบันการเงินไม่ปรับลดตามก็ไม่เกิดประโยชน์ 

"ประชาชนไม่ได้กู้เงินกับแบงก์ชาติโดยตรง ดังนั้นการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายจึงไม่เกิดประโยชน์หากแบงก์พาณิชย์ไม่ปรับลดตาม ซึ่งที่ผ่านมาหากรายไหนไม่ยอมปรับลดก็ทุบมันลงมา ต้องช่วยกันทุกฝ่าย"นายสมคิด กล่าว 

ขณะที่ภาคเอกชนก็ควรจะต้องลงทุนตาม เพื่อให้เกิดการลงทุนในประเทศให้ตามมา ซึ่งจะสามารถชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นได้ โดยในส่วนของรัฐบาลเองก็จะหนุนด้านการลงทุนเต็มที่ โดยได้สั่งการให้กระทรวงการคลัง ศึกษาการเดินหน้าลงทุนผ่านกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์สฟันด์ ด้วยการให้ประชาชนเข้ามาซื้อหน่วยลงทุน ซึ่งจะได้ทั้งการส่งเสริมการออมให้กับประชาชนและส่งเสริมการลงทุนไปพร้อมๆ กันด้วย 
 

ส่วนเรื่องบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 นั้น ก็ได้เตรียมความพร้อมในการใช้งบประมาณดังกล่าวอย่างเต็มที่ โดยศาลรัฐธรรมนูญจะนัดไต่สวนกรณีความชอบด้วยกฎหมายของงบประมาณดังกล่าวในวันที่ 7 ก.พ.นี้ ซึ่งเชื่อว่าเรืองดังกล่าวจะจบได้โดยเร็ว แม้ว่าจะล่าช้าไปกว่าที่เคยกำหนดไว้ และรัฐบาลจะมีเวลาใช้เงินงบประมาณดังกล่าวเพียง 4 เดือนเท่านั้น ดังนั้นที่ประชุมครม.จึงกำชับให้หน่วยงานราชการทั้งหมด จัดเตรียมการจัดซื้อจัดจ้างไว้รองบประมาณผ่านทันที เพื่อให้เงินลงสู่ระบบโดยเร็วที่สุด ดังนั้นจึงไม่น่าเป็นห่วงแต่

อย่างใด

ขณะที่ปัญหาโรคระบาดของไวรัสโคโรนานั้น ขอให้ประชาชนอย่าตกใจ เพราะระบบสาธารณสุขของไทยมีประสิทธิภาพ แต่ยอมรับปัญหาดังกล่าวส่งผลต่อการท่องเที่ยวของไทย เพราะนักท่องเที่ยวจีนหายไป ดังนั้นในอนาคตกระทรวงการคลังจะออกมาตรการชิมช้อปใช้ 4 ขึ้นมา เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว หนุนไทยเที่ยวไทย ซึ่งเชื่อว่าจะชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นได้ต่อไป