รับมือPM 2.5-โคโรนา
ATMOS Faceware
นวัตกรรมแรกที่โดดเด่น รูปลักษณ์ดีไซน์ และฟังก์ชันการทำงานที่สุดล้ำ คือ เครื่องกรองอากาศแบบพกพา “ATMOS Faceware” ของ AO Air เป็นบริษัทเทคโนโลยีในประเทศอเมริกา ที่ถูกอวดโฉมสู่สายตาชาวโลกเป็นครั้งแรก ในงาน CES 2020 โดย AO Air มีแนวคิดการพัฒนาระบบฟอกอากาศแบบส่วนบุคคล ที่สามารถสวมใส่ได้ และช่วยแก้ปัญหาเรื่องมลพิษและฝุ่นควันในอากาศ ทั้งนี้จึงได้พัฒนาเทคโนโลยี PositiveAir เป็นระบบที่ใช้พัดลมดูดอากาศเข้ามาในระบบ ผ่านขั้นตอนการฟอกอากาศ โดยที่สภาพภายในเครื่องจะมีแรงดันเป็นบวก ทำให้สามารถหายใจได้อิสระโดยไม่ต้องล็อกพื้นที่บริเวณรอบปากหรือจมูก สวมใส่แล้วไม่รู้สึกอึดอัด ชั้นกรองสามารถนำอากาศผ่านเข้ามาได้มากถึง 240 ลิตรต่อนาที ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือกระทั่งขณะเราออกกำลังกาย ก็จะได้รับอากาศบริสุทธิ์อย่างเพียงพอ โดยตัวเครื่องสามารถกรอง PM 2.5 ได้ แถมยังกรองได้ดีกว่าหน้ากากทั่วไปถึง 50 เท่า
การทำงานจะใช้เป็นแบตเตอรี่แบบ Li-ion สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุด 5 ชั่วโมง การทำงานสามารถเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชันในสมาร์ทโฟน เพื่อบอกข้อมูลการทำงาน ตัวฟิลเตอร์กรองฝุ่น มีอายุการใช้งานประมาณ 4 เดือนสามารถถอดเปลี่ยนได้
ATMOS เป็นสินค้าตัวแรกที่ได้เปิดให้สั่งจองได้แล้ว ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ www.ao-air.com ในราคา 350 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 10,500 บาท โดยในชุดจะมีแถมตัวฟิลเตอร์กรองให้ 4 เซต (ราคา 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ) โดยสินค้าจะเริ่มจัดส่งในช่วงเดือนกรกฎาคม 2563 นี้
Cambridge Mask
หน้ากากอนามัยอีกแบรนด์ที่น่าสนใจ คือ Cambridge Mask ที่ช่วยป้องกันฝุ่นละอองขนาดจิ๋วได้มากมาย ตั้งแต่ ฝุ่น PM10, PM 2.5, PM 0.3 ไปจนถึงเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และก๊าซพิษเลยทีเดียว โดยหลักการทำงานของหน้ากากรุ่นนี้จะมีการป้องกันถึง 3 ชั้น ได้แก่ การป้องกันเบื้องต้นสำหรับฝุ่นทั่วไป, ชั้นการป้องกันอนุภาคขนาดจิ๋ว เช่น PM 2.5 หรือ PM 0.3 และชั้นสุดท้าย กับฟิลเตอร์แบบคาร์บอนเกรดการทหาร
สมาร์ทวาล์วที่ฝังชิปบลูทูธและเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชัน Cambridge Mask App สมาร์ท วาล์วนั้นจะทำหน้าที่ตรวจวัดสภาพอากาศรอบตัวผู้ใช้ รวมทั้งจะคำนวณว่าเมื่อไรควรเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศ โดยวัดจากรูปแบบการหายใจและสมรรถนะของปอดตามนํ้าหนัก ส่วนสูง และเพศ
Air+ Smart Mask
Air+ Smart Mask หน้ากากอนามัยที่ชูจุดเด่นเรื่องการหายใจได้สะดวกสบาย และช่วยลดความร้อนที่เกิดจากการหายใจภายในหน้ากากด้วยพัดลมแบบกล่องอย่าง Active Ventilator ได้สูงสุดถึง 4 องศา พร้อมด้วยการลดความชื้นลง 40% และขับไล่คาร์บอนไดออกไซด์ออกจากหน้ากากได้อีกด้วย ทั้งยังใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 4 ชั่วโมง และใช้เวลาในการชาร์จด้วยสาย Micro USB 2.0 เพียง 1.5 ชั่วโมงเท่านั้น
Atmoblue
หน้ากากอนามัย “Atmoblue” จากบริษัท สกาย บูล แลป จากประเทศจีน มีการดีไซน์ให้หน้ากากมีความเป็นแฟชั่นมากขึ้น แถมยังป้องกันฝุ่นละอองได้แบบเต็มประสิทธิภาพอีกด้วย โดยจะทำงานผ่านพัดลมที่ใช้งานกับแบตเตอรี่ที่สามารถชาร์จใหม่ได้ทุกวัน พร้อมกับเกรดโรงงานระดับ H13 Hepa และยังผลิตออกมาให้รองรับกับสรีระของใบหน้าเพื่อให้ใส่ได้สบายและหายใจได้สะดวก
Airinum
สุดท้าย หน้ากากอนามัย Airinum ที่มีดีไชน์ออกแนวแฟชั่นให้เข้ากับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ส่วนเรื่องการป้องกันก็จัดเต็มเช่นกันด้วยนวัตกรรมการป้องกันฝุ่นละอองถึง 5 ชั้น ได้แก่ ชั้นป้องกันความเสียหาย, ชั้นของแผ่นคาร์บอนแบบปกติ, ชั้นป้องกันฝุ่น PM 10, ชั้นป้องกันฝุ่น PM 2.5 และชั้นสุดท้ายกับชั้นป้องกันด้านใน โดยทั้ง 5 ชั้นนี้จะช่วยป้องกันฝุ่นขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอน แถมใช้งานได้ติดต่อกัน 100 ชั่วโมง
หน้า 25 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,546 วันที่ 6 - 8 กุมภาพันธ์ 2563