8 เหตุผลไม่ควรห้าม คนจากจีนเข้าประเทศ

05 ก.พ. 2563 | 09:00 น.

บทบรรณาธิการ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ  3546 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 6 - 8 ก.พ.2563

 

     ปอดอักเสบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เป็นโรคอุบัติใหม่ เริ่มต้นการระบาดในจีนตั้งแต่ธันวาคม 2562 และมีการติดเชื้อไปในหลายประเทศ สถานการณ์ที่รุนแรงขึ้นทำให้องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ เมื่อ 30 มกราคม 2563 เพื่อป้องกันและลดการระบาดข้ามแดน

     กระทรวงสาธารณสุขของไทย เปิดศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินรับมือตั้งแต่ 4 มกราคม 2563 เฝ้าระวังด้วยมาตรการที่เข้มข้น จึงเป็นประเทศแรกที่ตรวจพบผู้ป่วยยืนยันนอกจีน และยกระดับสถานการณ์โรคเป็นระดับ 3 เมื่อ 22 มกราคม 2563

 

     ข้อแจ้งเตือนคนไทยด้วยกันเองคือ หลีกเลี่ยงการเดินทางไปจีน ขณะที่หลายประเทศตื่นกลัวออกคำสั่งห้ามคนจีนหรือผู้เดินทางจากจีนเข้าประเทศ ซึ่งประเทศไทย

     ไม่ห้ามและไม่ควรห้าม ด้วยเหตุผล 8 ประการ

     1. ทางการจีนใช้มาตรการเข้มข้นคุมการระบาด ปิดเมืองที่เสี่ยงสูง ห้ามกรุ๊ปทัวร์ออกต่างประเทศ เหมือนเพื่อนบ้านห้ามสมาชิกออกนอกบ้านแล้ว เราจะขึ้นป้าย “ห้ามคนจีนเข้า” เพื่อหยามน้ำใจกันซ้ำอีกเพื่อประโยชน์อะไร

     2. การระบาดในจีนที่ยังรุนแรง ไม่เพียงกรุ๊ปทัวร์ แต่รวมถึงคนจีนทั่วไป ต่างไม่มีกะจิตกะใจจะออกไปเที่ยวที่ไหนในช่วงนี้แน่ เพราะถึงอย่างไรอยู่กับบ้านอยู่กับครอบครัวตัวเองอุ่นใจกว่า

     3. ระบบสาธารณสุขไทยมีประสิทธิภาพ คัดกรองได้ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ต้องเฝ้าระวัง 485 ราย ให้กลับบ้านได้แล้ว 97 ราย พบผู้ป่วยติดเชื้อยืนยัน 19 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 8 ราย ยังรักษาตัว 11 ราย เมื่อปริมาณคนเดินทางจากจีนลดลง การคัดกรองก็ยิ่งทำได้ละเอียด มีประสิทธิภาพมากขึ้น

     4. หากจะมีคนจีนบางส่วนไม่เชื่อมั่นระบบสาธารณสุขของตน ขอไปตั้งหลักอยู่ประเทศอื่น คนกลุ่มนี้ก็คงไม่เลือกมาเมืองไทย เพราะทั่วโลกชี้ตรงกันว่า ไทยมีความเสี่ยงอันดับ 2 ของการระบาดรองจากจีน เลือกไปประเทศอื่นที่ปลอดภัยมากกว่าดีกว่า

 

     5. การสั่งห้ามคนจีนและที่เดินทางจากจีนเข้าประเทศหวังสกัดการระบาด แต่แน่ชัดแล้วว่าโรคนี้มีระยะฟักตัวถึง 14 วัน และติดต่อได้ขณะยังไม่แสดงอาการป่วย โลกยุคนี้ผู้คนติดต่อสัมพันธ์กันกว้างขวาง คนทุกชาติและจากทุกประเทศมีโอกาสอาจเป็นพาหะมือที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 ได้ทั้งหมด เราคงไม่สามารถปิดประเทศจากคนทั้งโลกได้

     6. เราไม่ห้ามใครเข้าประเทศ แต่ใครเข้ามาก็ต้องทำตามมาตรการสาธารณสุขของไทย เวลานี้ใครเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง เช่น เมืองอู่ฮั่นที่เป็นศูนย์กลางการระบาด ต้องกักตัวเฝ้าดูอาการ 14 วัน มาตรการเหล่านี้ปรับเข้ม-อ่อนได้ตามสถานการณ์ที่เราตัดสินใจดำเนินการได้เอง

     7. ความสำเร็จของแพทย์ไทย ให้การรักษาผู้ป่วยหนักเห็นผลชัดใน 24 ชั่วโมง และเชื้อหมดไปใน 48 ชั่วโมง พิสูจน์ว่าโรคนี้รักษาหายได้

     8. องค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ไทยเป็นสมาชิก เป็นองค์กรชำนัญพิเศษด้านสาธารณสุขของประชาคมโลก ก็ไม่เห็นด้วยกับการ “ปิดประเทศ” เพราะผิดหลักวิชาการ ซ้ำเติมการแก้ปัญหาปลุกความตื่นตระหนก และเรียกร้องความร่วมมือร่วมใจ ไม่ใช่เอาตัวรอด

     ใครเขาที่ “หนีร้อนมาพึ่งเย็น” เมืองไทยเราไม่เคยปิดประตูใส่หน้า