หลังจากที่กลุ่มเซ็นทรัลโดย “ทศ จิราธิวัฒน์” ออกมายืนยันว่าจับมือกับกลุ่มซิกน่า ซึ่งมี “เรอเน เบ็นโก” มหาเศรษฐีชาวออสเตรียเป็นเจ้าของ ทุ่มซื้อห้างสรรพสินค้าหรู “โกลบัส” (Globus) ในสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยมูลค่าสูงกว่า 1 พันล้านฟรังก์สวิส หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 3.1 หมื่นล้านบาทปลุกให้อุตสาหกรรมค้าปลีกไทยและยุโรปฮือฮาขึ้นอีกครั้ง เชื่อว่าหลายคนอยากรู้จัก “เรอเน เบ็นโก” มหาเศรษฐีชาวออสเตรีย พันธมิตรของเซ็นทรัล ซึ่งเขาคนนี้ความสามารถไม่ธรรมดา เป็นเศรษฐีระดับแสนล้านด้วยวัยเพียง 42 เท่านั้น
เรอเน เบ็นโก
เรอเน เบ็นโก (Rene Benko) เข้าทำเนียบมหาเศรษฐีพันล้าน(ดอลลาร์สหรัฐฯ) ของนิตยสารฟอร์บส์ ด้วยวัยเพียง 40 ต้นๆ เขามีสัญชาติออสเตรีย เป็นผู้ก่อตั้ง “ซิกน่า โฮลดิ้ง” (Signa Holding) หนึ่งในบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของยุโรป เขามีสินทรัพย์รวม 5,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 176,700 ล้านบาท ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 (โดยการรวบรวมของฟอร์บส์)
สมัยวัยเรียนระดับมัธยม เบ็นโกทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยในตำแหน่งผู้ช่วยนักพัฒนาที่ดิน ทำให้เขาต้องขาดเรียนบ่อยครั้ง และสุดท้ายก็เรียนไม่จบ แต่นั่นก็ทำให้เขาเริ่มต้นมีบริษัทของตัวเองตั้งแต่อายุเพียง 22 ปี และบริษัทดังกล่าวก็เติบโตกลายเป็นอาณาจักรซิกน่าฯซึ่งมีสินทรัพย์ต่างๆในเครือมูลค่ารวม 16,000 ล้านดอลลาร์ รวมถึงห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ในเยอรมนี ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ และอิตาลี
เมื่อเดือนกันยายน 2561 เบ็นโกผนวกกิจการห้างสรรพสินค้าคาร์ชตัดท์ (Karstadt) ) (ซึ่งคาร์ชตัดท์เคยเป็นบริษัทแม่ของห้างสรรพสินค้าคาเดเว และปัจจุบันคาเดเวเป็นของกลุ่มเซ็นทรัล) และห้างสรรพสินค้าเคาฟ์โฮฟ (Kaufhof) ในเยอรมนีเป็นผลสำเร็จ ทำให้เขาขึ้นแท่น “บุคคลแห่งปี 2561” ของหนังสือพิมพ์ฮันเดลส์บลัตต์ ในประเทศเยอรมนี ในฐานะยักษ์ใหญ่แห่งวงการห้างสรรพสินค้า และหลังจากนั้นเพียง 1 เดือน เบ็นโกยังรุกขยายพอร์ทการลงทุนเข้าสู่ธุรกิจสื่อ โดยเขาซื้อหุ้น 2 หนังสือพิมพ์รายใหญ่ที่สุดของออสเตรีย คือโครเน็น ไซตุง (Kronen Zeitung) และคูเรียร์ (Kurier)
ต้นเดือนกันยายน 2562 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เรอเน เบ็นโก มหาเศรษฐีวงการอสังหาริมทรัพย์ของออสเตรีย ได้ระดมทุนผ่านการขายหุ้นออกใหม่ 500 ล้านยูโรและออกหุ้นกู้ 300 ล้านยูโรเพื่อนำเงินไปซื้อหุ้นส่วนที่เหลือทั้งหมดในกิจการห้างสรรพสินค้า “เคาฟ์โฮฟ” ที่เขาถืออยู่ก่อนแล้ว 50 % หลังจากได้รับอนุมัติจากทางการ และดีลดังกล่าวก็ทำให้เบนโก้ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีอายุน้อยแสนล้าน ที่ร่ำรวยด้วยตัวเอง และมีสินทรัพย์มากที่สุดติดอันดับ 8 ของประเทศออสเตรีย
บลูมเบิร์กระบุว่า เมื่อการซื้อขายกิจการห้างสรรพสินค้าเคาฟ์โฮฟเสร็จสมบูรณ์ บริษัท ซิกน่า ไพรม์ ซีเล็คชัน เอจี ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของเบ็นโก ก็จะมีสินทรัพย์มากขึ้นถึง 10 เท่าคิดเป็นมูลค่า 15,100 ล้านยูโรในเวลาเพียง 7 ปี