เจาะกลยุทธ์ 3 แบรนด์บนดอยสู่ตลาดโลก

04 ก.พ. 2563 | 02:24 น.

ส่องกลยุทธ์ 3 ผู้พัฒนาแบรนด์ดีงจากดอยสู่ดาว “ใส่ใจ - ไม่หยุดคิด - ลงมือทำ” กุญแจนำสินค้าสู่ตลาดโลก

ผลิตภัณฑ์จากบนดอย ได้ดีอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอัตลักษณ์ของสินค้าที่มีความชัดเจน การนำเสนอสตอรี่ต่างๆ ที่เป็นตัวชูโรงให้สินค้ามีความน่าสนใจ รวมทั้งความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจของเหล่าผู้ประกอบการที่อยู่ตามรายภูมิภาค ที่มีทั้งความพยายามในการทำตลาด การผลักดันสินค้าสู่ไฮเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงการส่งออก ทำให้วันนี้สินค้าจากบนดอยถูกสร้างสรรค์และนำไปต่อยอดได้อย่างไม่รู้จบ และยังเป็นแรงบันดาลใจให้เราได้เห็นผลิตภัณฑ์จากพื้นที่ดังกล่าววางจำหน่ายตามช่องทางการค้า และได้รับการสนับสนุนที่ดีจากภาคส่วนต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

โครงการพัฒนาผู้ส่งออกรุ่นใหม่ :Young Exporter from local to Global (YELG) เป็นหนึ่งในโครงการของ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ภายใต้การดำเนินงานของสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) มุ่งพัฒนาและพยายามเข้าถึงผู้ประกอบการในระดับพื้นที่ ส่งต่อความรู้ความเข้าใจในการพัฒนาแบรนด์สินค้า เพื่อพัฒนาให้สินค้าเหล่านั้นสามารถส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศได้  

เจาะกลยุทธ์ 3 แบรนด์บนดอยสู่ตลาดโลก ล่าสุด โครงการที่จัดขึ้นที่ จ. เชียงราย โดยมีกิจกรรมต่างๆ อาทิ  การอบรมเชิงปฏิบัติการ  การให้คำปรึกษาด้านการส่งออกด้วย Export Clinic รวมถึงการแบ่งปันประสบการณ์และการแชร์เทคนิคจากผู้ประกอบการสุดเก๋าในแวดวงธุรกิจต่างๆ

3 ผู้ประกอบการ ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์โดยอาศัยเรื่องราวจากชาวดอยจนประสบความสำเร็จ และนำพาธุรกิจไปไกลสู่ระดับโลก

 

เริ่มจากเส้นทางแบรนด์เฟอร์นิเจอร์สัญชาติไทย “kenkoon” ของ บริษัท เคนคูน เอ็กซ์ จำกัด สามารถก้าวสู่ตลาดโลกได้ เ้วยแนวคิด "ไม่หยุดคิด ไม่หยุดพัฒนา" เน้นย้ำการสร้างสินค้าคุณภาพ

เจาะกลยุทธ์ 3 แบรนด์บนดอยสู่ตลาดโลก

นายแมนรัตน์ สวนศิลป์พงศ์ เจ้าของแบรนด์  “kenkoon” เล่าว่า เขาเริ่มตั้งต้นจากธุรกิจครอบครัว มีการพัฒนาผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ ทั้งการออกแบบและต่อยอดพัฒนารูปแบบงานดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ Outdoor Living ในแบบฉบับเฉพาะตัว จึงทำให้บริษัท เคนคูน เอ็กซ์ จำกัด เป็นเจ้าแรกที่ออกแบบเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งในสไตล์โมเดิร์น ด้วยความแตกต่างของรูปแบบ และวัสดุที่เลือกใช้ จึงก่อให้เกิดกระแสนิยมตามมา

ปัจจุบัน “kenkoon” เป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์คนไทย ที่ผลิตเฟอร์นิเจอร์ให้กับประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย เฟอร์นิเจอร์สำหรับเรือเดินทะเล และเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้ง 

สิ่งสำคัญที่ทำให้ “kenkoon” สามารถรุกสู่ตลาดส่งออกได้ คือ การมีเป้าหมายที่ชัดเจน และสร้างความแตกต่างให้กับสินค้า รวมไปถึงการปรับปรุงสินค้าและบริการสม่ำเสมอ และกล้าที่จะลงมือทำอย่างจริงจัง

เจาะกลยุทธ์ 3 แบรนด์บนดอยสู่ตลาดโลก

ด้านนายฉัตรชัย วงศ์มานะโรจน์ศรี เจ้าของแบรนด์สมุนไพร “ภูตะวัน” กล่าวว่า การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ คือ"คิดแล้วต้องลงมือทำ ถึงจุดเริ่มต้นจะยังไม่สำเร็จ แต่อนาคตจะแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เราทำว่ามีค่าแค่ไหน"

เจาะกลยุทธ์ 3 แบรนด์บนดอยสู่ตลาดโลก

เจ้าของแบรนด์สมุนไพร “ภูตะวัน” เริ่มต้นจากการเรียนรู้ในวัยเพียง 16 ปี และลองนำสินค้าไปขายกับแม่ ที่งาน OTOP แม้จะไม่ได้ทำรายได้มากนัก แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้น ทำให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี รวมถึงพัฒนากระบวนการผลิตให้ได้มาตรฐานสากล รวมถึงยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการ ปรับเปลี่ยนตามความพึงพอใจให้ของลูกค้า พร้อมที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากความเชื่อในพลังแห่งธรรมชาติ สู่การยกระดับคุณภาพชีวิตและดูแลสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน 

เจาะกลยุทธ์ 3 แบรนด์บนดอยสู่ตลาดโลก

อีกหนึ่งแบรนด์สินค้าบนดอยของไทยที่ไกลระดับโลก คือ แบรนด์กาแฟดอยช้าง นายปณชัย พิสัยเลิศ กรรมการผู้จัดการบริษัท ดอยช้าง คอฟฟี่ ออริจินอล จำกัด กล่าวว่า มุมมองการบริหารธุรกิจกาแฟดอยช้าง จากธุรกิจเพื่อชุมชน สู่ธุรกิจแฟรนไชส์ คือ การให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าอย่างสม่ำเสมอ ทำให้กาแฟดอยช้างเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกกาแฟรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทยตามข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ ปัจจุบันกาแฟดอยช้างมีช่องทางการขายทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ในสัดส่วน 30: 70 

นอกจากนี้ ยังมีระบบแฟรนไชส์และร้านกาแฟพันธมิตรอีกกว่า 50 สาขาในต่างประเทศ อาทิ แคนาดา อังกฤษเกาหลีใต้ สิงคโปร์ มาเลเซีย ลาว กัมพูชา และ เมียนมา เป็นต้น 

เจาะกลยุทธ์ 3 แบรนด์บนดอยสู่ตลาดโลก

นอกจากโครงการพัฒนาผู้ส่งออกรุ่นใหม่ :Young Exporter from local to Global (YELG) ซึ่งจัดขึ้นที่ จ.เชียงราย แล้วโครงการนี้จะมีการจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละภูมิภาค ได้แก่ จ.สงขลา และจ.บุรีรัมย์