ท่องเที่ยวสูญแล้ว9พันล. ซูวีเนียร์-รร.-อาหารหนักสุด

03 ก.พ. 2563 | 08:30 น.

ก.ท่องเที่ยวฯ เผยพิษโคโรนานักท่องเทียววูบแล้ว 2 แสนคน สูญรายได้ 9.1 พันล้าน 3อันดับธุรกิจที่กระทบมากสุดคือ ร้านค้าที่ระลึก โรงแรมและร้านอาหาร-เครื่องดื่ม


วันนี้ (3 ก.พ. 63) นายคณนาถ หมื่นหนู  โฆษกกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผย ถึงสถานการณ์ไวรัสโคโรนาที่เกิดขึ้นในจีนและส่งผลกระทบต่อหลาย ๆ ประเทศทั่วโลกและประเทศไทยซึ่งมีนักท่องเที่ยวจากจีนคิดเป็น 1 ใน 3 ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดซึ่งผลกระทบต่อเนื่องต่อธุรกิจการท่องเที่ยวของไทยทั้งนี้ กระทรวงฯ ได้มีการตั้งวอร์รูมเฝ้าติดตามสถานการณ์โดยตลอดอย่างต่อเนื่อง

 ท่องเที่ยวสูญแล้ว9พันล. ซูวีเนียร์-รร.-อาหารหนักสุด

อีกทั้งการมีคำสั่งให้บริษัทนำเที่ยวหยุดการทำทัวร์ในต่างประเทศ รวมถึงห้ามไม่ให้จำหน่ายแพกเกจท่องเที่ยวแก่นักท่องเที่ยว เอฟไอที ชาวจีน มาตรการดังกล่าวนี้ ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนของไทยลดลงเป็นจำนวนมาก โดยในช่วงแรกภายหลังคำสั่งห้าม นักท่องเที่ยวจีนลดลง 20 % ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมา ลดลงกว่า 80  % โดยจำนวนนักท่องเที่ยวจีนตั้งแต่วันที่ 24 – 31 มกราคม มีจำนวนทั้งสิ้น 143,000 คน ลดลงเกือบ 2 แสนคน คิดเป็น 58.0 % จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา 

โดยเบื้องต้น คาดว่า จะส่งผลให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวสูญเสียรายได้กว่า 9,156 ล้านบาท โดยภาคธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายสินค้า/ของที่ระลึก โรงแรม และร้านอาหาร/เครื่องดื่ม ตามลำดับ

 ท่องเที่ยวสูญแล้ว9พันล. ซูวีเนียร์-รร.-อาหารหนักสุด

อย่างไรก็ตาม ไทยมีจุดแข็งหลายอย่าง โดยประการสำคัญคือ มีบุคลากรและแพทย์ที่สามารถบริหารจัดการ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ของโรคได้อย่างทันท่วงที  มีระบบควบคุม กักกัน แยกโรคที่ดี โดยปฏิบัติการตลอด 24 ช.ม. และไทยยังไม่มีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ จึงเชื่อมั่นได้ว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว พร้อมทั้งมีการหารือเตรียมออกมาตรการที่เหมาะสมภายหลังสถานการณ์โคโรนาผ่านพ้นไป
 

ส่วนช่วงที่จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะถือเป็นโอกาสทองให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ใช้เป็นช่วงของการปรับปรุงทบทวนกระบวนการทำงานเพื่อลดปัญหาอุปสรรคที่เคยประสบพบเจอ ทั้งด้านการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว การพัฒนามาตรฐานบริการท่องเที่ยว พัฒนาบุคลากรการท่องเที่ยว

การทบทวนปรับแก้กฎหมายการออกและกำกับใบอนุญาต ตลอดถึงการปรับปรุงถนนหนทาง ทางเท้าทางลาดให้เหมาะสมกับการเดินทางของนักท่องเที่ยวและคนทุกเพศวัย เพื่อรองรับการให้บริการแก่นักท่องเที่ยว เมื่อระบบต่างๆ ดีขึ้นเป็นรูปโฉมใหม่ของการบริการ ก็เชื่อว่านักท่องเที่ยวจะได้รับประสบการณ์ความประทับใจที่เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน โฆษก ก.ท่องเที่ยวฯ กล่าวทิ้งท้าย