เตือนนายจ้าง ลืมแจ้งปรับข้อมูลลูกจ้างประกันสังคมโดนปรับแน่

01 ก.พ. 2563 | 03:06 น.

รัฐมนตรีแรงงานกำชับสำนักงานประกันสังคม เร่งติดตามนายจ้างให้ดำเนินการแจ้งขึ้นทะเบียนและแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกันสังคมกำหนด เพื่อเป็นการรักษาสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกันตนจะได้รับ ฝ่าฝืนมีโทษปรับ

 

หม่อมราชวงศ์ จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กำชับสำนักงานประกันสังคม เร่งติดตามนายจ้างให้ดำเนินการแจ้งขึ้นทะเบียนและแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.2533 วอนนายจ้างอย่าหลีกเลี่ยงปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อเป็นการรักษาสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกันตนจะได้รับตามกฎหมาย

 

นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวถึง การดำเนินการติดตามให้สถานประกอบการ ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายดังกล่าว ในช่วงระหว่างเดือน ม.ค. – ก.ย. 62 ที่ผ่านมา พบสถานประกอบการละเลยการแจ้งขึ้นทะเบียนและแจ้งสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน ซึ่งไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.2533 จำนวน 194,022 แห่ง ผู้ประกันตนจำนวน 782,140 ราย แบ่งเป็นสถานประกอบการที่ไม่ใช่ส่วนราชการ จำนวน 181,696 แห่ง ผู้ประกันตนจำนวน 744,326 ราย และสถานประกอบการที่เป็นส่วนราชการ จำนวน 12,326 แห่ง ผู้ประกันตนจำนวน 37,814 ราย อย่างไรก็ตาม สำนักงานประกันสังคมได้มีแนวทางมาตรการเร่งด่วน โดยได้ดำเนินการกับนายจ้างที่ไม่ได้แจ้งขึ้นทะเบียน และแจ้งสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนอย่างเคร่งครัด คือ ออกหนังสือเชิญพบ หากพบว่านายจ้างมีเจตนาให้ดำเนินการปรับหรือเปรียบเทียบปรับตามขั้นตอนของกฎหมาย

       

ทั้งนี้ นายจ้างซึ่งมีลูกจ้างทำงานในสถานประกอบการตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป ต้องแจ้งขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน (สปส. 1-03) โดยนายจ้างที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นแบบได้ที่ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ สำหรับนายจ้างที่มีสำนักงานใหญ่ในส่วนภูมิภาค ให้ยื่นแบบขึ้นทะเบียนได้ที่ สำนักงานประกันสังคมจังหวัด/สาขาที่สถานประกอบการตั้งอยู่ โดยนายจ้างมีหน้าที่ขึ้นทะเบียนลูกจ้างภายใน 30 วัน กรณีที่มีลูกจ้างลาออกจากงาน ให้นายจ้างแจ้งการออกจากงานพร้อมระบุสาเหตุการออกจากงาน โดยใช้หนังสือแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน (สปส. 6-09) ภายในวันที่ 15 ของเดือน ถัดจากเดือนที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริง         

เลขาธิการ สปส. กล่าวต่อไปว่า สำนักงานประกันสังคมมีช่องทางอำนวยความสะดวกแก่นายจ้าง ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต หรือ e-service โดยนายจ้างสามารถใช้บริการผ่านระบบอินเทอร์เน็ตดังกล่าว ได้แก่ งานขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน หรือแจ้งชื่อผู้ประกันตนเข้าทำงาน (สปส.1-03) การแจ้งสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน (สปส.6-09) การแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงผู้ประกันตน (สปส. 6-10) การส่งข้อมูลทะเบียนด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (สปส.1-04) และการส่งข้อมูลเงินสมทบ (สปส.1-10) ซึ่งเมื่อนายจ้างทำการลงทะเบียนขอทำธุรกรรมผ่านอินเทอร์เน็ตเรียบร้อยแล้ว จะมีอีเมล์ตอบกลับให้พิมพ์แบบ สปส.1-05 แล้วนำกลับมายื่นที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาก่อน แล้วเจ้าหน้าที่จะทำการอนุมัติ USER PASSWORD ให้แก่นายจ้าง โดยจะตอบกลับทางอีเมล์โดยอัตโนมัติ หลังจากนั้น นายจ้างสามารถเข้าใช้บริการได้ทันที เพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็วแก่นายจ้างในการส่งข้อมูลงานทะเบียนผู้ประกันตน และชำระเงินสมทบโดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปยังสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ สาขา/จังหวัด/ทั่วประเทศ หรือที่สายด่วน 1506 ให้บริการไม่เว้นวันหยุดราชการตลอด 24 ชั่วโมง