นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินและตลาดทุนธนาคารกรุงไทยระบุว่า เงินบาท หลังจากผันผวนหนักเมื่อวานนี้ เชื่อว่าวันนี้จะแกว่งตัวในกรอบที่แคบลงบ้าง หลังจากที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และตลาดกลับมารับกับความเสี่ยงได้บ้างแล้ว
อย่างไรก็ตาม จุดที่ต้องระวังต่อสำหรับเงินบาท คือสภาพคล่องที่อยู่ในระดับต่ำมาก ขณะที่ก็มีแรงขายเก็งกำไรว่าเศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากวิกฤตไวรัสระบาดครั้งนี้ และเมื่อราคาอ่อนค่าเร็ว นักลงทุนที่ต้องการซื้อดอลลาร์เพื่อไปลงทุนต่างประเทศ ก็เกิดอาการวิตกกังวลว่าเงินบาทจะอ่อนค่าต่อจึงไล่ซื้อดอลลาร์ซ้ำเติม ในระยะสั้นทิศทางของเงินบาทจึงมีโอกาสที่จะอ่อนค่าได้มากกว่าปกติ
โดยในคืนที่ผ่านมา ตลาดการเงินฝั่งสหรัฐพลิกกลับเป็นบวกได้ หลังจากที่องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ประกาศให้ไวรัสโคโรน่าเป็นภาวะฉุกเฉินระดับประเทศ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ทั่วโลกต้องยกระดับการป้องกันขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ไวรัสลดการแพร่กระจายลงในอนาคต หุ้นสหรัฐ จึงกลับไปซื้อขายตามผลประกอบการที่หลายบริษัทยังสามารถสร้างสถิติกำไรใหม่ได้อยู่ ส่งผลให้ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น 0.3%
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวลงต่อเนื่องจากวิกฤตไวรัสระบาด ส่งผลให้ล่าสุด ราคาน้ำมัน WTI ร่วงลงมาที่ระดับ 52.9 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อน
ฝั่งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ มีรายงานการขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายที่ระดับ 2.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา (ปรับเป็นรายปี) เนื่องจากการบริโภคของภาคครัวเรือนชะลอตัวลงเหลือเพียง 1.8% แต่ GDP สหรัฐยังขยายตัวดีกว่าเศรษฐกิจพัฒนาแล้วอื่นๆ เนื่องจากมีการขาดดุลการค้าที่น้อยลง
นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานใหม่ในฝั่งสหรัฐ ก็ปรับตัวลงมาที่ระดับ 2.16 แสนตำแหน่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แปลความได้ว่าแม้จะแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจไม่ดีเหมือนช่วงสองปีก่อน แต่ก็ถือว่าไม่ได้เลวร้ายไปกว่าที่ตลาดคาดไว้