กำลังถูกตั้งคำถามจากสังคมถึงการทำหน้าที่ของ “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร” (ส.ส.) เมื่อปรากฏภาพของ ส.ส.บางคน ไม่ทำหน้าที่ของตัวเองในรัฐสภา กรณีการโหวตร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาทที่ขณะนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ขั้นตอนการตราร่างกฎหมายฉบับนี้ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ทำให้เกิดปัญหาความล่าช้าในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ในการพัฒนาประเทศ
ทั้งนี้ ตามรัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ประกอบด้วย สมาชิก 500 คน มาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 350 คน และมาจากบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง 150 คน เข้าไปทำหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน บทบาทที่สำคัญของ ส.ส. อาทิ การเสนอและพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญและร่างพระราชบัญญัติ รวมถึงควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินโดยการตั้งกระทู้ถาม การเปิดอภิปรายทั่วไป และการตั้งคณะกรรมาธิการ ซึ่งล้วนเป็นหน้าที่ที่สำคัญยิ่ง
“ฐานเศรษฐกิจ” พาไปเปิดกระเป๋า ส.ส.-ส.ว.ดูเงินเดือนและค่าตอบแทนซึ่งมาจากภาษีประชาชนนั้น อยู่ที่ระดับหลักแสนบาทต่อเดือนเลยทีเดียว
เริ่มที่ตำแหน่ง “ประธานสภาผู้แทนราษฎร” ได้รับเงินประจำตำแหน่งอยู่ที่เดือนละ 75,590 บาท มีเงินเพิ่มเดือนละ 50,000 บาท รวมเป็น 125,590 บาทต่อเดือน ตามด้วยตำแหน่ง “รองประธานสภาผู้แทนราษฎร” ได้รับเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 73,240 บาท เงินเพิ่มอีกเดือนละ 42,500 บาท รวมเป็น 115,740 บาทต่อเดือน
ส่วนตำแหน่ง “ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร”จะได้รับเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 73,240 บาท เงินเพิ่มอีกเดือนละ 42,500 บาท รวมเป็น 113,560 บาทต่อเดือน ขณะที่ “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร” (ส.ส.) ได้รับเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 74,420 บาท เงินเพิ่มเดือนละ 42,330 บาท รวมเป็น 113,560 บาทต่อเดือน
ในส่วนของเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มของ “สมาชิกวุฒิสภา” นั้น สำหรับตำแหน่ง “ประธานวุฒิสภา” จะได้รับเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 74,420 บาท เงินเพิ่มอีกเดือนละ 45,500 บาท รวมเป็น 119,920 บาทต่อเดือน ตำแหน่ง “รองประธานวุฒิสภา” จะได้รับเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 73,240 บาท เงินเพิ่มเดือนละ 42,500 บาท รวมเป็น 115,740 บาทต่อเดือน ส่วน “สมาชิกวุฒิสภา” จะได้รับเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 71,230 บาท เงินเพิ่มอีกเดือนละ 42,330 บาท รวมเป็น 113,560 บาทต่อเดือน
นอกจากเงินเดือนประจำที่ได้รับในทุกๆเดือนแล้ว ส.ส. และ ส.ว.ยังมีสิทธิประโยชน์อื่นๆเพิ่มเติมอีก อาทิ สิทธิเบิกค่าใช้จ่ายการเดินทาง, สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาล รวมถึงเบี้ยประชุม อาทิ กรณีเป็นประธานกรรมาธิการ ประชุมจะได้ครั้งละ 1,500 บาท หากร่วมประชุม กมธ. ได้ครั้งละ 1,200 บาท ส่วนประชุมอนุกมธ.ได้ครั้งละ 800 บาท เป็นต้น