ช่อง 3 ประกาศตั้งเป้าทำกำไรได้ในปี 2020
ช่อง 3 ตั้งเป้าทำกำไรได้ปีนี้ ผ่านกลยุทธ์ 6 ด้าน
นายอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ. บีอีซี เวิลด์ เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทมีแนวทางกลยุทธ์ 6 ด้านเพื่อจะมุ่งสร้างรายได้ในช่องทางใหม่ๆให้เพิ่มขึ้น ได้แก่ 1.ธุรกิจนิวมีเดีย 2. Go Inter 3.ธุรกิจดิจิทัล (3 Plus) 4. New Content 5.บริหารศิลปิน นักแสดง และ 6.Data ซึ่งกลยุทธ์ทั้ง 6 ด้านที่บริษัทจะมุ่งไปในปีนี้ บริษัทเชื่อว่าจะทำให้ช่อง 3 สามารถทำรายได้ดีขึ้นและมีกำไรในปี 2020 ขณะที่ในปัจจุบันบริษัทมีรายได้มาจากกลุ่มทีวี 83% และอื่นๆ 17% ซึ่งภายใน 3 ปีข้างหน้าบริษัทจะพยายามดันกลุ่มธุรกิจอื่นๆขยับขึ้นเป็น 35% โดยมาจากการสร้างธุรกิจใหม่ที่ยั่งยืน ขณะที่กลุ่มทีวีในอนาคตจะมีสัดส่วนลดลงเหลือ 65% พร้อมทั้งตั้งเป้ารายได้เฉลี่ยเติบโต 10% ต่อปี
สำหรับกลยุทธ์แรกที่ช่อง 3 จะมุ่งดำเนินงาน คือ 1.นิวมีเดียปีนี้บริษัทจะเชื่อมสื่อออนไลน์และทีวีเข้าไว้ด้วยกัน เช่น การใส่คิวอาร์โค้ดของแบรนด์ที่มาโฆษณาหลังละคร หรือรายการต่างๆและเชื่อมโยงไปสู่ร้านค้าสะดวกซื้อ หรืออีคอมเมิร์ช 2.Go Inter เป็นการนำคอนเทนต์ของช่อง 3 ไปสู่ตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น ซึ่งในปีที่ผ่านมาหลังจากทดลองนำคอนเทนต์ออกตลาดต่างประเทศ ก็สามารถสร้างรายได้ในกลุ่มนี้เติบโตเพิ่มเป็น 2 เท่า พร้อมทั้งล่าสุดที่ผ่านมาบริษัทยังได้จับมือกับบริษัท Temcent เพื่อขยายฐานกลุ่มผู้ชมในตลาดต่างประเทศเพิ่ม เช่น ประเทศจีน เป็นต้น
3.ธุรกิจดิจิทัล โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทวางได้จับมือร่วมกับพาร์ทเนอร์กลุ่มสตรีมมิ่งเพื่อนำคอนเทนต์ออกอากาศผ่านช่องทางออนไลน์ และในปีนี้บริษัทจะเน้นเรื่องการรับชมแบบสตรีมมิ่งและจับมือกับกลุ่มธุรกิจ OTT มากขึ้น พร้อมทั้งจะปรับชื่อแอพพลิเคชั่นจาก Mello เป็น 3Plus 4. New Content โดยจะผลิตคอนเทนต์ที่น่าสนใจและน่าติดตามต่อเนื่อง พร้อมทั้งปรับเวลาในช่วงไพร์มไทม์ใหม่ จากเดิมเวลาไพร์มไทม์จะอยู่ระหว่าง 20.30 – 22.00 น. แต่ปัจจุบันบริษัทพบว่าช่วงเวลาที่มีเรตติ้งที่ดีคือ 18.00 – 22.00 น. ดังนั้นในปีนี้บริษัทจะให้ความสำคัญกับช่วงเวลา 18.00 -22.00น.โดยนำเสนอคอนเทนต์ที่สนใจและสร้างเรตติ้ง
5.บริหารศิลปิน (Artits) ที่ผ่านมาบริษัทได้สำรวจศิลปิน นักแสดงในสังกัดปัจจุบันมีทั้งหมดกว่า 200 คนซึ่งงานส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการแสดง ซึ่งบริษัทมองว่าความเป็นจริงแล้วศิลปินต่างๆเหล่านี้มีความสามารถในหลายด้าน ดังนั้นในปีนี้บริษัทจะผลักดันให้ศิลปินและนักแสดงในช่องได้มีโอกาสแสดงความสามารถในเวลทีที่หลากหลายทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น 6.Data พัฒนาข้อมูลการรับชมทีวีและสื่อออนไลน์เพือนำไปสู่การสั่งซื้อสินค้า ซึ่งในขณะนี้บริษัทได้เตรียมคลังสินค้าและระบบขนส่งไว้รองรับแล้ว