ทดสอบ เบนซ์อีคลาสใหม่ ขับขี่รถอัจฉริยะแห่งอนาคต (1)

04 เม.ย. 2559 | 12:00 น.
เมื่อเร็วๆ นี้ ค่ายเมอร์เซเดส เบนซ์ เยอรมนี ได้เปิดตัว อีคลาส โฉมใหม่ เจนเนอเรชันที่ 10 อย่างเป็นทางการ และได้รับการยกย่องให้เป็นที่สุดแห่งยนตรกรรมซีดานอัจฉริยะที่ยกระดับแนวคิดในการพัฒนาเทคโนโลยี ด้านวิศวกรรมยานยนต์ขึ้นไปอีกขั้น ทั้งในเรื่องสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันและการปล่อยก๊าซ CO2 ลงได้ ตลอดจนเทคโนโลยีต่างๆ ที่ช่วยให้การขับขี่และโดยสาร มีความสะดวกสบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งเมอร์เซเดส เบนซ์ (ประเทศไทย) ก็รับบทเสือมือไว นำอีคลาสมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ สดๆ ร้อนๆ โดยเลือกเครื่องดีเซลมาจำหน่ายก่อนด้วย E 220 d Exclusive ราคายั่วใจแค่ 3.99 ล้านบาท และ อี 220 d AMG Dynamic ราคา 4.79 ล้านบาท

[caption id="attachment_42467" align="aligncenter" width="500"] E 220 d Exclusive E 220 d Exclusive[/caption]

ขณะเดียวกัน ผมก็มีโอกาสไปร่วมการทดสอบ อีคลาสใหม่ ของนักข่าวรถยนต์ทั่วโลก ที่กรุงลิสบอน โปรตุเกส ซึ่งมีเทคโนโลยียานยนต์ใหม่ๆ หลายๆอย่างที่อาจยังไม่มีบรรจุในอีคลาสใหม่รุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทย ด้วยเหตุผลทั้งด้านราคาค่าตัว ทั้งด้านกฎหมายด้านคลื่นความถี่สัญญาณวิทยุของประเทศไทย

อีคลาสใหม่ มีความยาวตัวถัง 4,923 มม. ยาวกว่าเดิม 43 มม. ระยะฐานล้อยาว 2,939 มม. ยาวขึ้นถึง 65 มม. ระยะห่างจากล้อถึงกันชนที่สั้น ประกอบกับฝากระโปรงหน้าที่ยาว และการวางเส้นสายส่วนหลังคาที่ออกแบบในสไตล์รถคูเป้ทอดตัวเป็นเส้นโค้งยาวจรดด้านหลังของตัวรถ สำหรับด้านหน้าของตัวรถอีคลาส ใหม่ มาพร้อมกับกระจังหน้าที่ติดตั้งตราสัญลักษณ์ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ไว้บนฝากระโปรง ไฟหน้าแบบ LED High Performance และล้ออัลลอยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 18 นิ้ว ลายสิบก้าน รูปลักษณ์ด้านหลังของตัวรถยังได้รับการออกแบบให้ซุ้มล้อหลังดูกว้างกว่าซุ้มล้อหน้า เพื่อแสดงเอกลักษณ์ของสมาชิกใหม่ ในกลุ่มรถซาลูนของเมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมติดตั้งโคมไฟท้ายแบบชิ้นเดียวโดยด้านในโคมแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ทำให้มีรูปลักษณ์ที่ดูเท่ หรู อย่างมีระดับ

[caption id="attachment_42468" align="aligncenter" width="500"] E 220 d Exclusive E 220 d Exclusive[/caption]

ห้องโดยสารของอีคลาสใหม่ ออกแบบภายใต้แนวคิดที่ต้องการผสมผสานสไตล์สปอร์ตเข้ากับสุดยอดเทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อความรู้สึกสะดวกสบายขณะขับขี่และโดยสาร ชุดหน้าจอความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้ว จำนวน 2 จอ แบ่งการแสดงผลเป็น 2 ส่วน คือ แผงหน้าปัดสำหรับแสดงมาตรวัดต่างๆ ซึ่งเป็นหน้าจอแบบ Wide screen ขนาดใหญ่เพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นได้ชัดเจน และอีกส่วนหนึ่งจะเป็นหน้าจออินโฟเทนเมนต์ โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกรูปแบบของแผงหน้าปัดได้ 3 แบบ ตามความชอบส่วนตัว ได้แก่ แบบคลาสสิก แบบสปอร์ต และแบบ Progressive ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของรถยนต์ในเซ็กเมนต์นี้ที่มีการติดตั้งจอดังกล่าว นอกจากนี้ ยังเพิ่มสุนทรียภาพในการโดยสาร ด้วยระบบไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารที่ปรับสีได้ถึง 64 สี

[caption id="attachment_42466" align="aligncenter" width="500"] E 220 d Exclusive E 220 d Exclusive[/caption]

อีคลาส ใหม่ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 194 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที และให้แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตรที่ 1,600 – 2,800 รอบ/นาที ถ่ายทอดกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติชุดใหม่ 9G-TRONIC ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว ควบคุมแรงเหวี่ยง จากการทำงานของเครื่องยนต์ให้ต่ำลง ช่วยให้สมรรถนะการขับขี่นุ่มนวลและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประกอบกับโครงสร้างรถที่ได้รับการพัฒนาด้านอากาศพลศาสตร์ และมีน้ำหนักเบาลงส่งผลให้มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำเพียง 25.6 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียงแค่ 102 กรัม/กิโลเมตรนอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถตั้งโหมดการขับได้ตามต้องการ ด้วยระบบ DYNAMIC SELECT ที่มีโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 5 แบบ คือ ECO, Comfort, Sport, Sport+ และ Individual

ครั้งหน้า ผมจะพูดถึงประสบการณ์ในการทดสอบรถอีคลาสใหม่ในเวอร์ชันที่คนไทยอาจไม่มีโอกาสได้ลอง !

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,145 วันที่ 3 - 6 เมษายน พ.ศ. 2559