“คลัง” สั่งธอส.ปล่อยสินเชื่อแสนล้าน  กระตุ้นเศรษฐกิจ

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ว่า ได้สั่งการให้ธอส.เป็นส่วนหนึ่งในส่งเสริมภาคอสังหาริมทรัพย์ให้ขยายตัวมากขึ้น ผ่านการปล่อยสินเชื่อของแบงก์ ด้วยการให้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ เพราะภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีนี้ ให้ขยายตัวได้ และจะสามารถแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำของคนในสังคมได้ 

ขณะเดียวกันยังต้องการให้ธอส.นำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์เพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลประชาชน และนำข้อมูลของธอส.ที่ได้จากฐานลูกค้าที่มีอยู่ 3.7 ล้านราย มาเชื่อมโยงกับข้อมูลของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในการดูแลประชาชน โดยเฉพาะการดูแลด้านสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการใช้ Big Data ให้เป็นรูปธรรม

ด้านนายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธอส. กล่าวว่า ธอส.ได้เตรียมวงเงิน 1 แสนล้านบาท ไว้ปล่อยกู้เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐ และกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ รวม 3 มาตรการ ประกอบด้วย 1.โครงการบ้านสานรัก social solution วงเงินสินเชื่อรวม 30,000 ล้านบาท สำหรับผู้กู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 35,000 บาทต่อเดือน วงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยจะได้รับอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน หลังจากชำระเงินกู้คงที่ในช่วง 3 ปีแรกหมดแล้ว ทำให้มีภาระดอกเบี้ยถูกลง เฉลี่ย 3.5% จากเดิม 4% 

2.โครงการบ้านสานรัก Business วงเงิน 10,000 ล้านบาท สำหรับผู้กู้ที่มีรายได้สูงกว่า 35,000 บาทต่อเดือน โดยไม่จำกัดวงเงินกู้ ซึ่งจะได้รับอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน หลังจากชำระเงินกู้อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรก และลอยตัวแล้ว 2 ปี ทำให้มีภาระดอกเบี้ยถูกลงเหลือ 3.75% จากเดิม 4.2% 

3.สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ อัตราดอกเบี้ย 2.65-2.7% คงที่ 3 ปี วงเงินรวม 50,000 ล้านบาท จากการออกสลากออมทรัพย์ธอส.วงเงิน 50,000 ล้านบาท ที่จะเปิดขายหน่วยละ 50,000 บาท หน่วยละ 1 ล้านหน่วย ที่จะเปิดขายได้ในเดือนก.พ.นี้ หลังผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการธอส.ในวันที่ 28 ม.ค.นี้ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวถือว่าต่ำที่สุดจากปัจจุบันที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีที่ 2.77% 

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าข้าราชการและบุคคลากรภาครัฐ ที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ แต่มีผ่อนชำระเข้ามาต่อเนื่อง รวม 10,000 ราย คิดเป็นวงเงินหนี้ 8,300 ล้านบาท โดยจะให้ผ่อนชำระค่างวดเพียงครึ่งหนึ่งจากที่เคยชำระปกติ โดยให้นำเงินไปตัดเงินต้นทั้งหมด ซึ่งเป็นการปลอดภาระดอกเบี้ยนาน 6 เดือน โดยคาดว่าจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ก่อนเดือนมี.ค.นี้ 

ทั้งนี้ ธอส.ยังได้รายงานผลมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ให้รัฐมนตรีว่าการกีระทรวงการคลังได้รับทราบ ประกอบด้วย มาตรการบ้านล้านหลัง ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.2562 - 3 ธ.ค.2564 มีผู้ยื่นกู้ทั้งหมด 22,000 ราย คิดเป็นวงเงิน 17,000 ล้านบาท โดยได้อนุมัติแล้ว 21,000 ราย เป็นวงเงินอมนุมัติ 15,000 ล้านบาท 

ขณะที่สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 2.5% วงเงิน 50,000 ล้านบาท มีผู้ยื่นกู้ทั้งหมด 10,000 ราย คิดเป็นวงเงิน 20,000 ล้านบาท ได้อนุมัติแล้ว 9,000 ราย วงเงิน 17,000 ล้านบาท และโครงการบ้านดีมีดาวน์ มีผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์ 90,000 ราย พิจารณาผ่านเกณฑ์แล้ว 50,000 ราย และได้โอนเงินดาวน์คืนให้ประชาชนแล้ว 5,700 ราย 

นอกจากนี้ นายฉัตรชัย กล่าวว่า เป้าหมายการปล่อยสินเชื่อของธนาคารในปีนี้จะยังคงไว้ที่ 209,000 ล้านบาท เช่นเดิม ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3% และจากการปล่อยสินเชื่อใหม่ทั้งหมดในครั้งนี้ จะไม่กระทบกับผลกำไรของธนาคารในปีนี้ ที่ตั้งเป้าไว้ที่ 14,000 ล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนทื่ได้ 13,000 ล้านบาท