งบปี63สะดุดฉุดลงทุนเมกะโปรเจ็กต์7แสนล.ป่วน 

22 ม.ค. 2563 | 09:33 น.

 

การเสียบบัตรแทนกันของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ (ส.ส.) ส่อบานปลาย กระทบพระราชบัญญัติ(พรบ.)งบประมาณรายจ่าย ปี2563   อาจเป็นโมฆะ ส่งผลกระทบต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ โดยเฉพาะ  การเบิกจ่ายเม็ดเงินลงสู่ระบบฐานราก  ค่าแรง ระบบโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนโครงการขนาดใหญ่รัฐ  ที่ ประเมินว่า มีมูลค่า ไม่ต่ำกว่า 7แสนล้านบาท  

● ทุ่มงบแสนล้านแก้น้ำท่วม-แล้งปี 64

● สภาหอฯ-สภาอุตฯจ่อถกแก้ฝุ่น ห้ามวิ่งวันคี่กระทบส่งออก

● สต็อกคอนโดท่วม 2แสนมาตรการรัฐไม่ช่วย

ทั้งนี้   นายอังสุรัสมิ์ อารีกุล นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ระบุว่า    ปัจจุบัน  รัฐบาลไม่สามารถพึ่งพาภาคการส่งออกได้ ความหวังเดียวคือ  โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน   ไฟฟ้า แหล่งน้ำ โครงข่ายถนน   รถไฟฟ้า ทางคู่   มูลค่า 7แสนล้าบาท  กระทบไปถึงโครงการลงทุนเอกชน ที่ได้ก่อสร้างล้อตามโครงการรัฐ มูลค่าสูงถึง 4แสนล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขจาก ธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่ประเมินไว้    เช่นรถไฟฟ้า4สาย  อยู่ระหว่างก่อสร้าง จะมี ศูนย์การค้าคอนโดมิเนียม เกิดขึ้นตามมา  ยังไม่รวมโครงการที่ มีแผนขับเคลื่อนในปีงบประมาณ 2563  หลายรายการ   ดังนั้นรัฐต้องชัดเจนแก้ปัญหางบประมาณให้ออกมา กระตุ้นการจ้างงาน เกิดการจับจ่ายลงสู่ระบบฐานราก 

หากงบประมาณายจ่ายปี2563 ที่รอคอยเกิดสะดุดฟันธงได้ทันทีว่าเศรษฐกิจประเทศพังพินาศ หากรัฐบาลมีเพียงแต่รายจ่ายเงินเดือนประจำไม่มีโครงการผลักดันออกไปจะเกิดผลเสียตามมา ไม่เกิดการหมุนเวียนของเงิน ที่ได้จากการก่อสร้างเพื่อซื้อวัสดุอุปกรณ์ประมาณ 40-50% อีก20% เป็นการจับจ่ายของแรงงานเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภคเงิน ร้านค้าก็นำเงินที่ได้ไป ซื้อ สิ่งที่จำเป็นต่อไป เมื่อเงินหมุนเวียนหลายตลบ จะช่วยให้เศรษฐกิจประเทศเติบโตได้