ยกระดับแก้"ฝุ่นจิ๋ว"วันคี่ห้ามรถบรรทุกเข้ากรุง

21 ม.ค. 2563 | 11:21 น.

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่นราธิวาส(21ม.ค.2563) มีมติเป็นชอบการยกระดับมาตรการแก้ฝุ่นมลพิษ ขยายพื้นที่ห้ามรถบรรทุกเข้ากรุงเทพฯ ห้ามวิ่งวันคี่ เข้มงวดควันดำ-การเผาที่โล่งแจ้ง

ยกระดับแก้"ฝุ่นจิ๋ว"วันคี่ห้ามรถบรรทุกเข้ากรุง

ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ว่า ครม.เห็นชอบในหลักการ 12 มาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5  โดยรัฐบาลขอชี้แจงเพื่อความชัดเจนว่า รัฐบาลไม่ได้มีความเห็นว่าเรื่องฝุ่นเป็นเรื่องปกติ  ไม่เคยคิดว่าจะไม่ให้ความสำคัญ   ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มอบหมายให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวในวันที่ 23 ม.ค.นี้  โดยจะมีการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด  เพื่อที่จะพูดคุยในระดับปฏิบัติการให้ชัดเจนร่วมกัน

 

เราไม่ได้มีอะไรติดขัดกับมาตรการ แต่อยากให้การดำเนินการเป็นไปได้จริง ไม่ได้ออกมาตรการเฉย ๆ จากนั้นจะมีการแถลงผลการประชุมอย่างชัดเจนตามมา เช่น พื้นที่กทม.ทำอะไรไปแล้วบ้าง พื้นที่ปริมณฑลทำอะไรบ้าง  และในจังหวัดต่าง ๆ ผู้ว่าฯ จะมีอำนาจรับผิดชอบตรงไหนอย่างไร  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจำกัดพื้นที่ให้รถยนต์เข้ามา หรือรถกระบะเข้ามาในพื้นที่ไหนได้บ้าง รวมถึงเรื่องการเผาในที่โล่งจะนำไปหารือด้วย  เพื่อให้สามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างจริงจัง

เมื่อถามว่า มาตรการเร่งด่วนดังกล่าวมีเรื่องที่ให้โรงเรียนสามารถหยุดเรียนได้หรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า ถ้าเป็นเรื่องของโรงเรียนอยู่ในอำนาจของผู้อำนวยการสามารถพิจารณาได้ว่าจะปิดโรงเรียนหรือไม่

 

ทั้งนี้ การยกระดับมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่นละอองในช่วงสถานการณ์วิกฤต ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ เนื่องจากสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 พบเกินมาตรฐานต่อเนื่องและมีปริมาณอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน จึงต้องจำกัดจำนวนและลดการระบายมลพิษจากแหล่งกำเนิด  โดยในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมาจากยานพาหนะโดยเฉพาะที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล โรงงานอุตสาหกรรม การเผาในที่โล่ง จึงต้องยกระดับมาตรการให้เข้มงวดขึ้นเพื่อลดมลพิษที่ระบายออกสู่บรรยากาศ คณะกรรมการควบคุมมลพิษ มีมติให้ยกระดับมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่นละออง PM2.5 ในสถานการณ์วิกฤต เพื่อให้หน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการโดยเร่งด่วน
       
    1) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 
       (1) ออกข้อบังคับเพิ่มเติมเพื่อขยายเขตพื้นที่จำกัดรถบรรทุกตั้งแต่ 10 ล้อขึ้นไป ห้ามเดินรถเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพมหานครจากวงแหวนรัชดาภิเษกขยายเป็นวงแหวนกาญจนาภิเษก 
       (2) ออกข้อบังคับหรือระเบียบตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 เพื่อห้ามรถบรรทุกตั้งแต่ 10 ล้อขึ้นไป เข้ามาในพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพมหานครในวันคี่ ระหว่างเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 2563 สำหรับวันคู่ให้เข้าได้ตามช่วงเวลาที่กำหนด 
       (3) ยกระดับความเข้มงวดในการตรวจสอบตรวจจับรถยนต์ควันดำอย่างเคร่งครัด 
       (4) ออกคำสั่งห้ามการใช้รถที่มีมลพิษเกินมาตรฐานที่กำหนดมาใช้ในทางเดินรถและออกกฎกระทรวงเพื่อตรวจรับรองรถยนต์ที่ได้ปรับปรุงแก้ไขตามคำสั่งแล้วตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 
   
    2) กรมการขนส่งทางบก 
       (1) ตรวจวัดควันดำอย่างเข้มงวดกับรถโดยสาร (ไม่ประจำทาง) ทุกคัน โดยเพิ่มชุดตรวจเป็น 50 ชุดใน 50 เขต (บูรณาการร่วมกันระหว่างกรมการขนส่งทางบก กรมควบคุมมลพิษ และกรุงเทพมหานคร) 
       (2) ปฏิบัติการร่วมกับกองบังคับการตำรวจจราจรในการยกระดับความเข้มงวดการตรวจสอบตรวจจับรถควันดำสำหรับรถโดยสารและรถบรรทุกเพื่อการออกคำสั่งห้ามใช้รถ 
   
    

ยกระดับแก้"ฝุ่นจิ๋ว"วันคี่ห้ามรถบรรทุกเข้ากรุง

3) กรมโรงงานอุตสาหกรรม 
       (1) ตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมที่ทำให้เกิดฝุ่นละออง หากตรวจสอบแล้วไม่เป็นไปตามค่ามาตรฐานที่กำหนด ให้สั่งปรับปรุงแก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนดหรือสั่งหยุดการประกอบกิจการ 
       (2) ขอความร่วมมือโรงงานอุตสาหกรรมลดกำลังการผลิตในช่วงวิกฤตสถานการณ์ฝุ่นละออง และสนับสนุนแรงจูงใจ (Incentive) ให้กับโรงงานอุตสาหกรรมที่ให้ความร่วมมือ  
   
  

4) กรุงเทพมหานคร 
       (1) แก้ไขปัญหาการจราจรจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าเพื่อช่วยลดปัญหาฝุ่นละออง โดยกำกับให้ปฏิบัติตามมาตรการ 12 ข้ออย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ หากไม่ปฏิบัติตามให้ระงับการก่อสร้าง โดยมีมาตรการทั้ง 12 ข้อ ได้แก่ 
    - การวางแนวแบริเออร์ ให้จัดวางให้ตรงตามแนวเส้นทางจราจร 
    - ช่องทางกลับรถคับแคบ ให้เปิดช่อง U-Turn ให้กว้าง เพื่อให้รถยนต์กลับรถได้สะดวกขึ้น  
    - ให้ขนย้ายกองดิน เศษหิน เศษปูนทรายออกจากพื้นที่ก่อสร้างในทันที 
    - เร่งแก้ไขผิวจราจรให้เรียบร้อย 
    - แนวก่อสร้างที่ยังไม่เริ่มก่อสร้าง แต่ได้วางแผงแบริเออร์ ให้เปิดช่องทางชั่วคราว 
    - ให้เร่งก่อสร้างงานฐานราก เพื่อแก้ไขปัญหาคอขวดที่สะพาน 
    - ให้จัดระเบียบรถบรรทุกในพื้นที่ 
    - ปรับผิวจราจรให้เป็นช่องจราจรชั่วคราวเพิ่มขึ้น 
    - พื้นที่ที่ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง แต่ปิดช่องจราจร ให้เปิดช่องจราจรเป็นครั้งคราวในพื้นที่ 
    - การเปิดแนวแบริเออร์แล้วไม่ปิดให้เรียบร้อย ให้ปิดกั้นให้เรียบร้อยเพื่อความปลอดภัย 
    - ติดตั้งไฟฟ้าชั่วคราวตามแนวการก่อสร้าง 
    - ปิดกั้นพื้นที่ก่อสร้างและจัดทำทางสัญจรอย่างปลอดภัย 
       (2) ไม่ให้มีการเผาในที่โล่ง และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้กระทำการเผา 
  
  

 

5) จังหวัดต่าง ๆ (ยกเว้น 9 จังหวัดภาคเหนือ) 
       (1) ออกเทศบัญญัติหรือข้อบัญญัติท้องถิ่น ควบคุมการเผาขยะมูลฝอย หญ้า พืชไร่ พืชสวน ตอซังข้าว หรือสิ่งอื่นใด ไม่ว่าจะเป็นที่ดินของตนเองหรือที่สาธารณะในช่วงวิกฤตสถานการณ์ฝุ่นละออง 
       (2) เข้มงวดการควบคุมยานพาหนะ โรงงานอุตสาหกรรมการก่อสร้างต่าง ๆ และ
  

6) ข้อเสนออื่น 
      (1) ขอความร่วมมือหน่วยงานภาคราชการ ภาคเอกชน ประชาชน ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวมาทำงาน 
      (2) รถยนต์ของส่วนราชการต้องผ่านมาตรฐานควันดำทุกคัน โดยกำหนดให้เป็นตัวชี้วัดของหัวหน้าส่วนราชการ 
      (3) ให้กระทรวงพลังงานพิจารณาสนับสนุนการลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีปริมาณกำมะถันไม่เกิน 10 ppm  
      (4) ขอความร่วมมือกระทรวงพลังงาน กระทรวงคมนาคม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ภาคเอกชน และภาครัฐที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนการให้บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสำหรับรถยนต์ดีเซลที่มีอายุเกิน              5 ปี  
      (5) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับหน่วยงานอื่นสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์วิกฤต