ตรุษจีนระทึก หวั่นคลื่นทัวริสต์กระจายไวรัสปอดอักเสบ

20 ม.ค. 2563 | 09:20 น.

 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการจีนยืนยันวันนี้ (20 ม.ค.) มีการตรวจพบผู้ป่วยปอดอักเสบที่เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้นอีก 139 รายในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีการแพร่ระบาดจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ที่มีการตรวจพบครั้งแรก ไปยังเมืองอื่นๆแล้วด้วย นอกจากนี้ ยังมีตัวเลขผู้ป่วยเสียชีวิตจากโรคดังกล่าวจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 3 คน  

 

ข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อปอดอักเสบจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่กระจายไปยังเมืองอื่นๆของจีน ก่อให้เกิดความวิตกกังวลเนื่องจากปลายสัปดาห์นี้จีนจะเข้าสู่เทศกาลตรุษจีนหรือเทศกาลปีใหม่ของจีนซึ่งเป็นวันหยุดยาว ประชากรหลายร้อยล้านคนต่างออกเดินทางทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้การควบคุมการแพร่กระจายของโรคเป็นไปได้ยากมากขึ้น

เทศกาลท่องเที่ยวในวันหยุดยาวของชาวจีน กำลังจะเริ่มขึ้นแล้วปลายสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าว อยู่ในตระกูลเดียวกันกับเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจที่เฉียบพลันรุนแรง หรือ ซาร์ส (SARS) ที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกไปเกือบๆ 800 คนระหว่างปี 2545-2546 ซึ่งครั้งนั้น ประเทศต้นทางการแพร่ระบาดก็คือประเทศจีน                                                                                                                                                                                                

 

คณะกรรมการสาธารณสุขเมืองต้าซิงในนครปักกิ่งเปิดเผยว่า มีการยืนยันผู้ป่วยที่ติดเชื้อปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แล้ว 2 รายในนครปักกิ่ง นอกจากนี้ในเมืองเสิ่นเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ก็ยืนยันตรวจพบผู้ป่วยแล้ว 1 ราย ผู้ป่วยทั้ง 3 รายนี้จึงเป็นครั้งแรกที่มีการยืนยันผู้ป่วยในเมืองอื่นๆของจีน นอกเหนือไปจากเมืองอู่ฮั่นที่เป็นสถานที่แรกที่มีการตรวจพบ และจนถึงวานนี้ (19 ม.ค.) คณะกรรมการสาธารณสุขเทศบาลนครอู่ฮั่นยืนยันจำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายใหม่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา 136 ราย เพิ่มจากเดิมที่มีอยู่ก่อนแล้ว 62 ราย ส่วนผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากโรคนี้เพิ่มขึ้นเป็น 3 รายเมื่อวันเสาร์ผ่านมา (18 ม.ค.)

 

สถิติใหม่ล่าสุดนี้ ทำให้จำนวนผู้ป่วยด้วยโรคดังกล่าวที่ยืนยันแล้วทั่วโลกมีมากกว่า 200 คน นับเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับหน่วยงานสาธารณสุขและการกำกับควบคุมโรคระบาดในหลายๆประเทศ ที่ต้องตั้งรับและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงเทศกาลตรุษจีนเนื่องจากประชาชนจีนหลายร้อยล้านคนมีวันหยุดยาวและนิยมออกเดินทางท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นในประเทศจีนเองหรือในต่างประเทศ และเทศกาลตรุษจีนปีนี้ก็กำลังจะเริ่มขึ้นช่วงปลายสัปดาห์นี้    

ตรุษจีนระทึก หวั่นคลื่นทัวริสต์กระจายไวรัสปอดอักเสบ

รายงานของ ศูนย์วิเคราะห์โรคระบาดโลกของลอนดอน อิมพีเรียล คอลเลจ ประมาณการณ์ว่า จนถึงวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยในเมืองอู่ฮั่นจำนวนถึง 1,723 คนที่มีอาการเกี่ยวเนื่องกับโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัส แต่เรื่องนี้หน่วยงานสาธารณสุขจีนยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นแต่อย่างใด กระนั้นก็ตาม รัฐบาลหลายประเทศทั่วโลกได้ตื่นตัวที่จะรับมือและเตรียมเพิ่มมาตรการคุมเข้มที่สนามบินเพื่อคัดกรองนักเดินทางที่อาจเจ็บป่วยและเดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น ซึ่งจนถึงขณะนี้ มีการตรวจพบผู้ป่วย 2 รายในประเทศไทยและ 1 รายในญี่ปุ่น โดยผู้ป่วยเหล่านี้เพิ่งเดินทางมาจากหรือเพิ่งเดินทางเยือนอู่ฮั่นเมื่อไม่นานมานี้  อาการที่ตรวจพบมีทั้งไข้สูงและการหายใจลำบาก ซึ่งคล้ายๆกับอาการของโรคอื่นๆในระบบทางเดินหายใจ ทำให้การตรวจตราและคัดกรองมีความยุ่งยากมากขึ้น

 

เจ้าหน้าที่ของสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่า จะเริ่มมีการตรวจสอบเที่ยวบินที่บินตรงมาจากนครอู่ฮั่นสู่สนามบินซานฟรานซิสโกและสนามบินเจเอฟเคในนิวยอร์ค รวมทั้งที่สนามบินลอสแองเจลิสที่เป็นจุดเปลี่ยนเครื่องของหลายเที่ยวบิน  


ตรุษจีนระทึก หวั่นคลื่นทัวริสต์กระจายไวรัสปอดอักเสบ

 

ด้านคณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติของจีนประกาศวานนี้ (19 ม.ค.) ว่าจะเพิ่มความเข้มงวดกวดขันในการป้องกันการแพร่กระจายของโรค แต่ก็ยอมรับว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุและที่มาของไวรัสดังกล่าว ขณะเดียวกัน ราคาหุ้นของบริษัทยาและบริษัทผู้ผลิตหน้ากากอนามัยของจีนทะยานขึ้นเมื่อตลาดเปิดการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (20 ม.ค.) สะท้อนของวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรค นอกจากนี้ คำสำคัญ หรือ  key word เกี่ยวกับโรคดังกล่าวยังเป็นคำที่ติดอันดับมีการค้นหามากที่สุดใน “เวยป๋อ” (Weibo) สื่อโซเชียลมีเดียยอดนิยมของจีน   

 

ด้านบทบรรณาธิการของโกลบอล ไทม์ส ซึ่งเป็นสื่อในเครือหนังสือพิมพ์ พีเพิลส์ เดลีของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ระบุว่า รัฐบาลจำเป็นจะต้องสร้างความโปร่งใสโดยต้องเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด และไม่ทำข้อผิดพลาดซ้ำรอยเดิมเหมือนเมื่อครั้งโรคซาร์ส ที่มีการปกปิดข้อมูลการแพร่ระบาดเป็นเวลานานนับสัปดาห์ กระทั่งมีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นทำให้ทางการต้องยอมรับความจริงและออกมาพูดถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคซาร์สทั่วโลกถึง 774 คน (ปี 2546) และเศรษฐกิจจีนเองก็ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดดังกล่าว โดยผลศึกษาจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจของมหาวิทยาลัยปักกิ่งชี้ว่า ในปี 2546 โรคซาร์สก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจแก่ประเทศจีนคิดเป็นมูลค่า 25,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จีดีพีลดลงไป 1-2% เนื่องจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับผลกระทบรุนแรง  

 

นายยุสุเกะ มิอุระ หัวหน้านักวิจัยของสถาบันวิจัยมิสุโฮในกรุงโตเกียว ให้ความเห็นว่า ยังคงต้องรอดูว่าโรคปอดอักเสบจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังแพร่ระบาดในขณะนี้ จะขยายวงสร้างผลกระทบออกไปมากน้อยเพียงใด แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการแพร่ระบาดของโรคที่มีความคล้ายคลึงกับโรคซาร์ส มหันตภัยในอดีต จะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สร้างผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจจีนที่อยู่ในภาวะชะลอตัวอยู่แล้วอย่างแน่นอน