ทีมเศรษฐกิจประชาธิปัตย์เปิดโครงการ "เรียนจบ พบงาน"
ทีมเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ ส่งแอพพลิเคชั่น ‘@DemTum’ ช่วยค้นหางาน ตอบโจทย์โลกยุคใหม่ หวังลดปัญหาคนตกงาน ที่ปัจจุบันมีกว่า 4 แสนราย และมีแนวโน้มเพิ่มปริมาณมากขึ้นทุกปี
นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้า พรรคประชาธิปัตย์ และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ในฐานะแม่ทัพใหญ่ของโครงการ‘เรียนจบ พบงาน’ เปิดเผยว่า ทีมเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์ ได้จัดทำโครงการ “เรียนจบ พบงาน” พร้อมกับพัฒนา แอพพลิเคชั่น ‘@DemTum’ ขึ้น เพื่อช่วยเสริมสร้างให้มีแรงงานคุณภาพเพียงพอต่อตลาดงานอย่างเร่งด่วนด้วยแอพพลิเคชั่นทีาเป็นสิ่อกลางในการเชื่อมต่อระหว่างแรงงาน และผู้ต้องการแรงงาน ในขณะเดียวกัน ยังเป็นแหล่งความรู้ในการพัฒนาทักษะให้กับแรงงานสาขาต่างๆ เชื่อมโยงสถานที่ฝึกงาน เพื่อยกระดับทักษะอาชีพให้สอดคล้องกับยุค Digital Transformation
การใช้งานแอพพลิเคชั่น ‘@DemTum’ จะเหมือนกับการแชทไลน์ทั่วไป เริ่มจากการ Add ไลน์เป็นเพื่อน หลังจากนั้นให้ส่งประวัติ CV หรือ Resume ผ่านไลน์นั้น
ทุก ๆ การแชท และคำถามต่างๆ จะมีระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) คอยวิเคราะห์และประมวลผลบทสนทนาของผู้ใช้และตอบสนองโซลูชั่นต่าง ๆ ได้อย่างตรงความต้องการ เช่น “อยากหางาน / อยากฝึกงาน” ระบบจะทำการเชื่อมโยงข้อมูลของผู้ใช้ไปหาสิ่งที่ต้องการได้ทันที ตั้งแต่การเทรนนิ่ง การจัดหางาน มีคอร์สเวิร์คช้อป แหล่งงาน (แบบเต็มเวลาและพาร์ทไทม์) แหล่งฝึกงาน และอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อช่วยอัพเดท Skill ของผู้ใช้งาน
ความพิเศษของ ‘@DemTum’ คือการได้รับความร่วมมือจาก ‘Career Visa Thailand’ บริษัทวิสาหกิจชื่อดังระดับโลก(ด้านการแนะแนววิชาชีพระดับโลก) ที่มีศักยภาพในการยกระดับฝีมือแรงงาน ซี่งได้มาตั้งสำนักงานที่ประเทศไทยรวมถึงบริษัท ‘Voxy’ แอพฯ การเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่มีการนำระบบ AI เข้ามาช่วยเหลือผู้ใช้งานให้เลือกโหมดการใช้ภาษาได้ตามประเภทของความต้องการมาร่วมเป็นพันธมิตรกับโครงการ ‘เรียนจบ พบงาน’ ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสให้กับตลาดงานของคนไทยในยุคนี้ได้มากยิ่งขึ้น
แอพพลิเคชั่นนี้ จะช่วยค้นหางาน ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงาน และจะทำให้ระบบนิเวศน์ของตลาดงานไทย เดินหน้าไปสู่เส้นทางที่ถูกต้องยิ่งขึ้น
โครงการ ‘เรียนจบ พบงาน’ และแอพพลิเคชั่น ‘@DemTum’ มีกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เข้าร่วม เพื่อสนับสนุนทั้งองค์ความรู้ในแง่ของตลาดงานยุคใหม่ รวมถึงการเปิดหาแรงงานที่หลากหลายอีกมากมาย เช่น กลุ่มเซ็นทรัล กลุ่มสยามพิวรรธน์ HUAWEI WHA กลุ่มธนาคารใหญ่ของไทย กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ บีกริม ปตท. แบล็คแคนยอน มิลเลนเนี่ยมออโต้กรุ๊ป ฯลฯ
นอกจากนี้ ยังได้รับการตอบรับจากผู้คนในหลากหลายวงการ ทั้งสายยันเทิง ธุรกิจ เอชอาร์ สตาร์ทอัพ และเจ้าของกิจการสาขาต่างๆ
จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ที่มีจำนวนผู้ว่างงานในไทยมากกว่า 4 แสนราย และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในแต่ละปี เนื่องจากปัญหาของตลาดงานยุคเก่าที่ไเ้รับผลกระทบจาก Digital Transformation