กาหัว3ส.ส.งูเห่า“เพื่อไทย”ไม่ส่งสมัยหน้า

15 ม.ค. 2563 | 10:16 น.

“เพื่อไทย”ลงโทษ 3 ส.ส.“พรพิมล-พลภูมิ-ขจิตร”โหวตสวนมติพรรคไม่ส่งลงเลือกตั้งครั้งหน้า

 

15 มกราคม 2563 คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีส.ส.ของพรรคไม่ปฏิบัติตามมติของพรรคและพรรคร่วมฝ่ายค้านที่มีพล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ เปิดเผยผลสรุปการสอบ 3 ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยที่โหวตสวนมติพรรค ดังนี้ 

1.กรณีนางพรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี พบว่า ได้แสดงพฤติกรรมและท่าทีชัดเจนว่า มีเจตนาและแสดงออกอย่างเปิดเผยในการฝ่าฝืนมติพรรค แม้ในครั้งแรกจะยังมิได้มีมติไปสนับสนุนรัฐบาลแต่ก็ไปแสดงตัวเป็นองค์ประชุมอย่างเปิดเผย ซึ่งขัดต่อมติของพรรค  และเมื่อช่วงการอภิปรายงบประมาณ
2563 วาระสอง-สาม ยังแสดงตนโหวตสวนมติพรรคอย่างเปิดเผยโดยมิได้สนใจและนำพาต่อมติของพรรคแต่อย่างใด

ประกอบกับหลักฐานแวดล้อมหลายกรณีตามบันทึกการสอบสวนเห็นว่า  ส.ส.พรพิมล ได้จงใจฝ่าฝืนมติพรรคโดยเชื่อได้ว่า  เป็นการได้รับการร้องขอและมีประโยชน์ตอบแทนส่วนตน  ถือว่าเป็นการกระทำความผิดวินัยพรรคอย่างร้ายแรง ซ้ำซาก ควรลงโทษสถานหนัก อย่างไรก็ตามการลงโทษถึงขั้นขับออกจากสมาชิกพรรค ตามรัฐธรรมนูญ ผู้นั้นสามารถไปหาพรรคใหม่สังกัดได้ภายในสามสิบวัน จึงเห็นว่ายิ่งจะเป็นการสมประโยชน์ของฝ่ายรัฐบาลมากขึ้นไปอีก จึงเสนอให้กรรมการวินัยและจรรยาบรรณลงโทษทางวินัยในระดับภาคทัณฑ์และใช้มาตรการทางปกครองที่เด็ดขาดคือ ไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรมของพรรคและไม่ส่งสมัครในการเลือกตั้งครั้งต่อไปโดยไม่มีเงื่อนไขผ่อนปรนใดๆ ทั้งสิ้น

กาหัว3ส.ส.งูเห่า“เพื่อไทย”ไม่ส่งสมัยหน้า

นางพรพิมล ธรรมสาร

2.กรณีนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กรุงเทพฯ จากการตรวจสอบและสอบสวนชี้ชัดว่าส.ส.พลภูมิ ได้มีพฤติกรรมและการกระทำที่ฝ่าฝืนมติพรรคแม้จะอ้างเหตุผลด้วยความจำเป็นและเหตุผลส่วนตัวก็ไม่สามารถนำมาเป็นข้ออ้างหักร้างแนวทางของพรรค และจริยธรรมทางการเมือง และไม่อาจใช้เป็นเหตุผลในการกระทำที่ขัดต่อมติของพรรคได้

แม้ว่าจะยังไม่ได้มีพฤติกรรมการกระทำผิดอย่างถึงที่สุด  แต่ก็ยังคงฝ่าฝืนมติพรรค โดยการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณที่ผ่านมา ได้ลงมติไม่ประสงค์ลงคะแนน สวนทางกับมติของพรรคที่ให้งดออกเสียง   แม้จะไม่ถึงขั้นลงมติเห็นชอบแบบราย ส.ส.พรพิมลก็ตาม อย่างไรก็ตาม การจะพิจารณาลงโทษสถานหนักก็ยังมีเหตุผลเช่นเดียวกันว่าในที่สุดก็จะเข้าทางความต้องการของฝ่ายรัฐบาล จึงเห็นควรใช้มาตรการทางปกครองให้พิจารณาความผิดโดยให้ภาคทัณฑ์ และไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรมของพรรคเป็นเวลาหนึ่ง และพิจารณาไม่ส่งเป็นผู้สมัครของพรรคในการเลือกตั้งครั้งต่อไป เว้นแต่จะสามารถพิสูจน์ให้พรรคมั่นใจหรือมีการกระทำที่น่าเชื่อถือว่าจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตนเองให้อยู่ในระเบียบวินัยของพรรค

กาหัว3ส.ส.งูเห่า“เพื่อไทย”ไม่ส่งสมัยหน้า

นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ           

3.กรณีนายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี ถือว่าได้กระทำผิดวินัยร้ายแรงเช่นกันข้ออ้างและเหตุผลที่ชี้แจงถือว่าฟังไม่ขึ้น แต่พฤติกรรมคือเพียงแสดงตนให้เป็นองค์ประชุมแต่ในความประพฤติต่อมายังไม่เห็นแจ้งชัดว่ายังจงใจที่จะกระทำผิดเช่นเดิม จึงเสนอให้ดำเนินการภาคทัณฑ์ ไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรมพรรคในระยะเวลาหนึ่ง และพิจารณาไม่ส่งลงเลือกตั้งในครั้งต่อไปจนกว่าจะมีข้อเสนอหรือพิจารณาเป็นอย่างอื่น

กาหัว3ส.ส.งูเห่า“เพื่อไทย”ไม่ส่งสมัยหน้า

นายขจิตร ชัยนิคม

 

ทั้งนี้ ผลสรุปทั้ง 3 กรณีนี้ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ จะส่งผลการพิจารณาให้คณะกรรมการจริยธรรมของพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาโดยลำดับ