14 มกราคม 2563 สำนักงานอัยการสูงสุด โดยนายสาวิตร บุญประสิทธิ์ รองอัยการสูงสุด และนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ร่วมลงนามในบันทึกความร่วมมือ (MOU) การเชื่อมโยงข้อมูลคดีทุจริตโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ณ ห้องประชุม 303 ชั้น 3 สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ
โดยบันทึกความร่วมมือดังกล่าว สืบเนื่องจากนโยบายรัฐบาลในการนำโมเดลไทยแลนด์ 4.0 มาใช้เชื่อมโยงยุทธศาสตร์ชาติในการพัฒนาประเทศภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ เพื่อให้ระบบการบริหารราชการมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และการกำหนดแนวทางปฏิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรมไว้เพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปด้วยความรวดเร็ว โปร่งใส ตรวจสอบได้เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนและสร้างกระบวนการยุติธรรมที่ประชาชนเชื่อมั่น ประกอบกับนโยบายการบริหารงานของนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด ในข้อที่ 3 ที่ต้องการให้สำนักงานอัยการสูงสุด นำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมสมัยใหม่มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ลดค่าใช้จ่ายทั้งของภาครัฐและประชาชน ให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างทั่วถึง สะดวก รวดเร็ว
สำนักงานอัยการสูงสุดได้ให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ในการปฏิรูประบบบริหารจัดการองค์กร จึงได้มีการพัฒนาระบบฐานข้อมูลสารบบคดีที่เคยใช้ในรูปแบบเล่ม เป็นการใช้งานในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และได้เปิดใช้งานสารบบคดีอิเล็กทรอนิกส์เต็มรูปแบบเมื่อต้นปี พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นต้นมา ผลการดำเนินการสารบบคดีอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวทำให้สำนักงานอัยการสูงสุดสามารถเชื่อมโยงข้อมูลคดีกับหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมที่เกี่ยวข้องได้ เช่น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมประมง และขณะนี้กำลังพัฒนาระบบ
เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ อีกทั้งได้พัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเพิ่มช่องทางให้ประชาชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมในชั้นพนักงานอัยการได้อีกส่วนหนึ่งที่เราเรียกว่า ระบบติดตามข้อมูลคดีเพื่อบริการประชาชน (AGO – Tracking) ผ่านทาง Mobile Application เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีให้สามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับคดีได้โดยสะดวก และรวดเร็ว เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล และเป็นไปตามแผนปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุดและสำนักงาน ป.ป.ช. จึงได้ตกลงร่วมมือกันเพื่อดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลคดีทุจริตในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานให้เกิดความรวดเร็วและถูกต้องยิ่งขึ้น
โดยตกลงร่วมมือกันดังต่อไปนี้
1. สำนักงานอัยการสูงสุด กับ สำนักงาน ป.ป.ช. จะอำนวยความสะดวกในการเชื่อมโยงข้อมูลคดีทุจริตระหว่างหน่วยงานโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยแต่ละหน่วยงานสามารถนำข้อมูลคดีทุจริตไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ได้
2. สำนักงานอัยการสูงสุด กับ สำนักงาน ป.ป.ช. จะได้ร่วมกันจัดทำข้อกำหนดหรือวิธีการหรือแนวทางด้านเทคนิคในการใช้ข้อมูลและพัฒนาปรับปรุงระบบ รวมถึงการเชื่อมโยงข้อมูลอื่น ๆ ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุด กับ สำนักงาน ป.ป.ช. จะได้มีการศึกษาเพิ่มเติม ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์จากการเชื่อมโยงข้อมูลร่วมกัน
3. ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นร่วมกันว่าควรมีกระบวนการสอบทานความถูกต้องของข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ
การทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลคดีทุจริตโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ในวันนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลดิจิตอลในการดำเนินคดีทุจริตที่อยู่ในอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของทั้งสองหน่วยงานให้เป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว ถูกต้องแม่นยำอย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพิ่มมากขึ้น