5 แกนนำ‘อนาคตใหม่’ ดิ้นสู้คดี‘แฟลชม็อบ’

โล่งไปตามๆ กัน หลังกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” และ “เดินเชียร์ลุง” เมื่อวันที่ 12 มกราคม เสร็จสิ้นลงโดยปราศจากความรุนแรง ไม่มีการจับกุมแกนนำและผู้ร่วมอีเวนต์การเมือง เนื่องจากมีการดูแลและควบคุมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายความมั่นคงอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เป็นชนวนก่อความวุ่นวายจนนำไปสู่ประเด็นทางการเมือง เฉกเช่นจากกรณีชุมนุม “แฟลชม็อบ” บริเวณสกายวอล์ก แยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2562

ย้อนรอยคดี“แฟลชม็อบ”

ย้อนดูเหตุการณ์ชุมนุม แฟลชม็อบ บริเวณ “สกายวอล์ก” แยกปทุมวัน ที่ 5 แกนนำพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ประกอบด้วย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และแกนนำพรรค อีก 4 คน คือ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์, นางสาวพรรณิการ์ วานิช และ นายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร อดีตผู้สมัครส.ส.นครปฐม ซึ่งต่อมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากจัดการชุมนุมสาธารณะที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

เป็นที่น่าสังเกตจากสังคมว่า เหตุผลสำคัญที่การเลือกใช้สกายวอล์ก บริเวณแยกปทุมวันในครั้งนั้น เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่รองรับประชาชนได้จำนวนมาก และเดินทางสะดวก เป็นจุดศูนย์กลางการจราจรรถโดยสารสาธารณะ ทั้งที่เป็นรถไฟฟ้า และรถ ขสมก.

ทั้งยังถูกใช้ทำกิจกรรมทางการเมืองหลายครั้งหลังรัฐประหาร ปี 2557 ของกลุ่ม “คนอยากเลือกตั้ง” ซึ่งต่อมาแกนนำ อาทิ นายรังสิมันต์ โรม นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ “จ่านิว” กลุ่มถูกดำเนินคดีฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ห้ามชุมนุมการเมืองเกิน 5 คน และจัดการชุมนุมสาธารณะภาย ในรัศมี 150 เมตรจากเขตพระราชฐานตาม พ.ร.บ.การชุมนุม ขณะนี้คดียังอยู่ในชั้นศาล

5 ข้อหาแกนนำม็อบ

การดำเนินคดีกับแกนนำ “คนอยากเลือกตั้ง” ไม่ต่างจาก 5 แกนนำพรรคอนาคตใหม่ ถูกตั้งข้อกล่าวหาในเวลาต่อมา 5 ข้อหา คือ

1.ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้ง

2.ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยกีดขวางทางเข้าออกหรือรบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการสถานีรถไฟ

3.ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะไม่ให้เกิดการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ

4. ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

และ 5.การชุมนุมสาธารณะในระยะไม่เกิน 150 เมตรจากพระราชวัง

นอกจากนี้ นายสนธิญา สวัสดี สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้แจ้งความกล่าวโทษต่อ 5 แกนนำ พรรคอนาคตใหม่ 3 ข้อหา ประกอบด้วย

1.การชุมนุมสาธารณะโดยไม่ได้แจ้ง และชุมนุมใกล้วังสระปทุม ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ชุมนุมห่าง 150 เมตร และจัดชุมนุมขวางทางเข้า-ออกสถานที่

2. มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ทำให้ประชาชนกระด้างกระเดื่อง และไม่เคารพกฎหมาย

และ 3.ทำความผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 6 ละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์

พนักงานสอบสวน ได้รับเรื่องร้องเรียนของนายสนธิญา ไว้พิจารณาว่า ข้อกล่าวหามีมูลหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ทาง สน.ปทุมวัน ได้มีการแจ้งความการกระทำผิดของ นายธนาธร อยู่แล้ว

ขอสอบ“ปิยบุตร-ช่อ-พิธา”

ต่อมาเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2563 นายธนาธร และ นายไพรัฏฐโชติก์ ในฐานะเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว นอกจากนั้นยังมีผู้ถูกกล่าวหาอีก 3 คนคือ นายธนวัฒน์ วงค์ไชย หรือบอล นางสาวณัฏฐา มหัทธนา หรือโบว์ และ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน

ภายหลังนายธนาธร และพวก เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปรากฏว่าตำรวจได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีกหนึ่งข้อหาคือ ทำการชุมนุมสาธารณะในระยะไม่เกิน 150 เมตรจากพระราชวัง ทุกคนที่มาได้ทำการปฏิเสธข้อกล่าวหาไปในทุกข้อ โดยนาย ธนาธร ยืนยันว่าจะต่อสู้คดีจนถึงที่สุดต่อไป

ขณะที่ นายปิยบุตร, นางสาวพรรณิการ์ และ นายพิธา ซึ่งเป็นส.ส. บัญชีรายชื่อ อยู่ในระหว่ารอมติที่ประชุมสภาในวันที่ 15-16 มกราคมนี้ ว่าจะอนุญาตให้ส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปสอบปากคำและดำเนินคดีตามกฎหมายหรือไม่

เนื่องจากการส่งตัวส.ส. ที่มีคดีอาญา ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 125 ที่มีสาระสำคัญสรุปว่า ในระหว่างสมัยประชุม ห้ามมิให้จับ คุมขัง หรือหมายเรียกตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาไปทําการสอบสวนในฐานะที่สมาชิกผู้นั้นเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากสภาที่ผู้นั้นเป็นสมาชิก หรือเป็นการจับในขณะกระทําความผิด ฯลฯ

คาดว่า “ปิยบุตร-ช่อ-พิธา” อนาคตใหม่ จะได้รับโหวตให้ได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครอง ซึ่งเป็นไปตามบรรทัดฐานของสภา ที่ห้ามดำเนินคดีอาญากับส.ส.สมัยประชุม

เว้นแต่เมื่อปิดสมัยประชุมสภา วันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ ทั้ง 3 ส.ส. อนาคตใหม่ จะไปให้ปากคำกับตำรวจด้วยตัวเอง ตามที่ “ช่อ” พรรณิการ์ ได้ลั่นวาจาเอาไว้แล้ว

วิปรัฐบาลอุ้ม

‘ปิยบุตร-พิธา-ช่อ’

ตามที่สภาผู้แทนราษฎรได้รับหนังสือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินคดีกับ ส.ส. 3 คน จากพรรคอนาคตใหม่ ประกอบด้วยนายปิยบุตร แสงกนกกุล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และนางสาวพรรณิการ์ วานิช ฐานฝ่าฝืนพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะนั้น นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล กล่าวว่า มาตรา 125 ของรัฐธรรมนูญปี 2560 ไม่ให้ดำเนินคดีระหว่างสมัยประชุม เว้นแต่บางกรณีก็มีการร้องขอให้ดำเนินคดี แต่สภาผู้แทนราษฎรก็ไม่เคยอนุญาต จึงแจ้งหลักการเบื้องต้นว่าคงไม่สามารถให้ดำเนินคดีในกรณีนี้ได้ ซึ่งจะต้องให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติ

วิรัช รัตนเศรษฐ

ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ส.ส.รัฐบาลก็คงจะลงมติตามหลักการนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการ ของรัฐธรรมนูญ และเป็นบรรทัดฐานในอนาคต แต่ถ้าทั้ง 3 คน ต้องการจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก็ขึ้นอยู่กับการร้องขอต่อสภาผู้แทนราษฎร แต่เมื่อสิ้นสุดสมัยประชุมวันที่ 28 กุมภาพันธ์ จะดำเนินการต่อไปอย่างไร ก็เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนสมัยประชุมสามัญครั้งที่ 3 จะเริ่มขึ้นเมื่อใด ก็อยู่ที่ประธานสภา เป็นผู้กำหนด