‘เซ็นทรัล’อัด แคมเปญใหญ่ ดันยอดตรุษจีน

09 ม.ค. 2563 | 23:40 น.

เซ็นทรัล ยาหอมรัฐบาลนายกฯตู่ มั่นใจนโยบายภาครัฐกระตุ้นเศรษฐกิจไทยโต เดินหน้าผนึก 9 ธุรกิจ จัดใหญ่แคมเปญตรุษจีน “Happy Chinese New Year 2020 ต้อนรับปีหนูทอง ฉลองแด่นักช็อป” หวังโกยรายได้โตเป็นประวัติการณ์

 

 

นางณัฐธีรา จิราธิวัฒน์ บุญศรี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด บริษัทในกลุ่มบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือเซ็นทรัล รีเทล เปิดเผยว่า บริษัทเชื่อมั่นว่าภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อในปีนี้ยังมีการเติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายของภาครัฐ การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว บวกกับการลงทุนและเปิดตัวแคมเปญใหม่ๆของภาคเอกชนในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างสม่ำเสมอโดยคาดว่าในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2563 กำลังซื้อยังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดีเพื่อรองรับกำลังซื้อในช่วงต้นปี และสร้างแรงดึงดูดให้เกิดขึ้นกับผู้บริโภค บริษัทจึงร่วมกับ 9 กลุ่มธุรกิจในกลุ่มเซ็นทรัล และเซ็นทรัล รีเทล ประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, ท็อปส์, แฟมิลี่มาร์ท, มัทสึโมโตะ คิโยชิ, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน, เพาเวอร์บาย, ซูเปอร์สปอร์ต, ซีเอ็มจี และบีทูเอส เปิดแคมเปญ “Happy Chinese New Year 2020 ต้อนรับปีหนูทอง ฉลองแด่นักช็อป” โดยมีแพลตฟอร์ม Omni channel ผสมผสานจุดเด่นที่ดีที่สุดของออนไลน์และออฟไลน์ไว้ด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงเทศกาลตรุษจีน

“มั่นใจว่าการผนึกกำลังของทุกกลุ่มธุรกิจในการจัดแคมเปญ พร้อมด้วยโซลูชันที่ตอบโจทย์การจับจ่ายของทุกกลุ่มลูกค้าผ่านแพลตฟอร์ม Omni channel จะช่วยส่งผลให้ยอดขายในเทศกาลตรุษจีนของเซ็นทรัล รีเทล เติบโตสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์อย่างแน่นอน โดยประเมินว่าเทรนด์การจับจ่ายหรือพฤติกรรมของผู้บริโภคในปี 2563 นี้ จะมี 3 แนวทางหลักคือ 1.การจับจ่ายที่มีความเป็นเฉพาะบุคคลมากขึ้น 2.การยอมจ่ายเพื่อประสบการณ์ใหม่ๆ และ 3. การจ่ายในสิ่งที่มีความเป็นเอ็กซ์คลูซีฟมากขึ้น”

นางณัฐธีรา กล่าวอีกว่า แคมเปญนี้ใช้งบการตลาดกว่า 50 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ เพราะเทศกาลตรุษจีนถือเป็นเทศกาลใหญ่หลังจากฉลองปีใหม่มาแล้ว และคาดว่าจะเป็นอีกปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งนี้จากข้อมูลของปีที่ผ่านมาพบว่ามีเงินสะพัดในเทศกาลตรุษจีนสูงถึง 13,000 ล้านบาท โดยพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยค้นหาสินค้าผ่านออนไลน์ 91%, เลือกซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ 87% และช็อปปิ้งออนไลน์ผ่านมือถือ 74% ขณะที่กลุ่มสินค้าที่เติบโตมียอดขายผ่านช่องทางออนไลน์คือ 1.แฟชั่น โต 14% 2.เฟอร์นิเจอร์โต 15% และ 3.เครื่องใช้ไฟฟ้า โต 8% 4.อาหาร โต 22% ทั้งนี้ในส่วนของเซ็นทรัลพบว่า ไตรมาสที่ 3 ปี 2562 ธุรกิจออมนิแชนเนลมีการเติบโตอย่างมาก คือ 1.กลุ่มแฟชั่น โต 95%  2.กลุ่มสินค้าขนาดใหญ่ โต 70% และ 3.กลุ่มอาหาร โต 45%”

ด้านนางสาวภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาด - ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ประเมินว่า ธุรกิจอาหารคืออีกหนึ่งกลุ่มที่จะมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งแน่นอนว่าทางกลุ่มมีสินค้าที่รองรับความต้องการดังกล่าว โดยเฉพาะในส่วนของท็อปส์ที่มีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับเทศกาลตรุษจีนที่จะถึงนี้ ทั้งการจัดซื้อที่หลากหลาย สินค้าที่เพียงพอต่อความต้องการ ผ่านกลยุทธ์ทางการตลาดในแบบ Omni Channel และ ฐานข้อมูลจาก The1 ที่ทำให้สามารถรู้ความต้องการของลูกค้าและตอบสนองความต้องการได้ตรงจุด

“ด้วยยุทธศาสตร์ที่หลากหลายทั้งมัลติแคติกอรี, มัลติมาร์เก็ตติ้ง และมัลติฟอร์แมต ขณะเดียวกันยังมีธุรกิจทั้งในเวียดนาม ยุโรป และอิตาลี นอกจากนี้ยังมีฐานลูกค้า The1 อยู่กว่า 28.8 ล้านรายจากธุรกิจของทางกลุ่มในทั่วโลก ทำให้บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถนำฐานข้อมูลดังกล่าวเข้ามาปรับใช้ในการตอบโจทย์ลูกค้าได้”

อย่างไรก็ตามประเมินว่าตลอดช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ของเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จะมีการเติบโตที่ 10-15% จากภาพรวมการเติบโตเฉลี่ยในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่มีการเติบโตราว 12-15%

หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3538 วันที่ 9-11 มกราคม 2563