กกร.จี้หาตลาดใหม่ รับสงครามอิหร่าน-สหรัฐ

08 ม.ค. 2563 | 07:23 น.

กกร.จี้รัฐหาตลาดใหม่รองรับผลกระทบสงครามอิหร่าน-สหรัฐฯ แม้จะไม่กระทบไทยมากแต่ต้องเตรียมพร้อม เล็งตลาดอินเดีย-บังคลาเทศ –อาเซียน มองปีนี้ปัจจัยบวกยังมองไม่เห็น ส่วนปัจจัยลบยังรุมเร้า ทั้งสงครามอิหร่าน-สหรัฐฯ-ค่าบาท-ภัยแล้ง เร่งรัฐผ่านงบประมาณประจำปีหวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ  พร้อมประเมินเศรษฐกิจไทยปี 63 ขยายตัวได้ 2.5-3% ส่งออกติดลบ 2 ถึง 0%

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)  เปิดเผยว่า  เศรษฐกิจไทยปีนี้ยังอยู่ท่ามกลางหลายปัจจัยกดดันที่ต่อเนื่องมาจากในปี 2562 ไม่ว่าจะเป็นผลจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ความผันผวนของค่าเงิน สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ที่สถานการณ์สงครามการค้าแม้ว่าจะมีทิศทางที่คลี่คลายไปบ้างแต่ก็ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และภาวะแล้งที่รุนแรงในประเทศซึ่งรัฐบาลต้องเร่งหามาตรการรับมือฉุกเฉินด้วย เพราะนอกจากจะกระทบผลผลิตและกำลังซื้อเกษตรกรแล้ว อาจมีผลให้ราคาอาหารสดปรับตัวสูงขึ้น

กกร.จี้หาตลาดใหม่ รับสงครามอิหร่าน-สหรัฐ

 

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยลบเพิ่มเติมใหม่ คือ ความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลางจากกรณีสหรัฐฯและอิหร่าน ที่หากสถานการณ์ยืดเยื้ออาจผลักดันให้ราคาน้ำมันยืนอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ดังนั้นภาครัฐเองต้องเร่งหาตลาดใหม่ทดแทนตลาดตะวันออกกลาง  เช่น อินเดีย บังกลาเทศ และอาเซียน  ซึ่งในสัปดาห์หน้า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะนำคณะไปเจรจาการค้าที่อินเดีย ซึ่งน่าจะเป็นโอกาสในการเปิดตลาดอินเดียของไทยมากขึ้น ในคร้งนี้จะมีภาคเอกชนเดินทางไปด้วย  ขณะเดียวกันต้องการให้ภาครัฐควรเตรียมแผนรับมือฉุกเฉินจากเหตุการณ์ในตะวันออกกลาง แม้ว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับไทยมาก เพราะไทยส่งออกไปตลาดตะวันออกกลาง 3.5%ของการส่งออกไทย แต่ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจเช่นกัน

สำหรับกรอบประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2563 นั้น กกร. ประเมินว่า การส่งออกอาจยังมีแนวโน้มฟื้นตัวได้จำกัดหรือมีความเป็นไปได้ที่ติดลบ 2% ถึง 0% ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยปี 2563 อาจขยายตัวราว 2.5-3 % ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไป คาดว่าจะอยู่ในช่วง 0.8-1.5% ซึ่งรองรับสมมติฐานราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่อาจยืนสูงที่ระดับ 70 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล เป็นเวลา 6 เดือน 

กกร.จี้หาตลาดใหม่ รับสงครามอิหร่าน-สหรัฐ       

นอกจากนี้ที่ประชุม กกร. ต้องการให้ภาครัฐเร่งรัดการบังคับใช้และการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว และการดูแลความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทไม่ให้กระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะไม่เพียงจะมีผลต่อการส่งออกและการท่องเที่ยว แต่ยังเชื่อมโยงถึงภาคการผลิตและการจ้างงานอีกด้วย  ส่วนโอกาสของประเทศไทยต้องสร้างบรรยากาศให้ดีเน้นเรื่องความมั่นคงและปลอดภัย โดยเรายังศักยภาพด้านการท่องเที่ยว รวมถึงเป็นศูนย์กลางอาหารในภูมิภาค