เชียร์รัฐตีมาตรฐานข้าวนุ่มขายตลาดโลก

นายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ปัจจุบันนี้มีผู้ส่งออกเริ่มส่งออกในกลุ่มข้าวนุ่มแล้ว ก็มีความเห็นว่าควรจะมีมาตรฐานรองรับหรือไม่ เพราะไม่เช่นนั้นข้าวชนิดนี้จะถูกขายรวมอยู่ในกลุ่มข้าวขาว(white rice) ดังนั้นเพื่อให้ชัดเจนว่าข้าวกลุ่มนี้คือข้าวอะไร จะได้ไปประชาสัมพันธ์ขายได้ถูกต้อง ซึ่งจะทำให้สินค้าชนิดข้าวมีความหลากหลายให้ผู้บริโภคทั้งโลกได้เลือกซื้อ ซึ่งที่ผ่านมามีมาตรฐานข้าวกล้อง ข้าวหอมมะลิ ข้าวหอมไทย ส่วนข้าวหอมปทุมธานีก่อนหน้านี้เคยมี แต่ล่าสุดได้จัดเข้าไปอยู่ในมาตรฐานข้าวหอมไทยเรียบร้อยแล้ว ถัดลงมาเป็นข้าวขาวตามชั้นเปอร์เซนต์ต่างๆ อาทิ ข้าวขาว100%, 5% และ 25% เป็นต้น

“แต่ถ้าต้องการที่จะโปรโมทข้าวพื้นนุ่มไทยออกไปสู่ตลาดโลก จำเป็นที่จะต้องมีมาตรฐานของข้าวนุ่ม เป็นพันธุ์ข้าวกลุ่มไหน ชนิดอะไร เพื่อที่ผู้ส่งออกจะได้ส่งออกตามชนิดนั้นๆได้ ไม่เช่นนั้นการส่งออกปัจจุบันขายอยู่ในกลุ่มข้าวขาวคละ ความจริงตลาดภายในมีการแบ่งแยกกลุ่มขายอยู่แล้ว หากคิดว่าเทรนด์ตลาดโลกตอบรับในกลุ่มข้าวนี้ เพื่อสร้างการรับรู้ในตลาดโลกก็ต้องกำหนดกลุ่มข้าวนุ่ม แยกออกจากกลุ่มข้าวขาวยกระดับขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง จะทำให้ไทยมีข้าวให้เลือกหลากหลายกลุ่มมากขึ้นจากเดิม”

นายเกรียงศักดิ์  กล่าวว่า ดังนั้นรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดมาตรฐานข้าวนุ่มว่าจะเป็นอย่างไร แล้วโอกาสของการพัฒนาสายพันธุ์นี้จะมีมากขึ้น มีเกณฑ์มาตรฐานกลางที่กำหนดคุณภาพข้าวแล้วต่อไปการรายงานการขายในอนาคต จะสามารถบ่งบอกแยกกลุ่มตลาดชัดเจน อาทิ ขายข้าวหอมมะลิ ได้กี่ตัน ขายข้าวพันธุ์พื้นนุ่มได้กี่ตันในแต่ละปี จะได้เป็นดัชนีชี้วัดในการกำหนดทิศทางตลาดได้มากขึ้น ดังนั้นควรจะกำหนดมาตรฐานข้าวนุ่มให้โดยเร็วที่สุด ถึงเวลาแล้วที่จะต้องใช้การ “ตลาดนำการผลิต” เพื่อกอบกู้วิกฤติข้าวไทย