“สมคิด” เร่งลดผู้มีรายได้น้อยในอีอีซี 3.5 แสนคน

06 ม.ค. 2563 | 07:48 น.

“สมคิด”มอบนโยบายอีอีซี ปี 2563 ลุยการลงทุน สร้างรายได้ให้กับชุมชน ลดผู้มีรายได้น้อยให้หมดไป ภายใน 3 ปี พร้อมพัฒนาบุคลากรเร่งด่วน 20,000 คน จำนวน 120 หลักสูตร ให้ตรงความต้องการงานภายใน 1 ปี

 

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้(6 ม.ค.63) ได้มอบนโยบายให้กับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(สกพอ.) ในการดำเนินงานของอีอีซี ปี 2563 จะเน้นการขยายการลงทุนสู่พื้นที่และชุมชน เพื่อสร้างรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้คนในพื้นที่ อีอีซี ทั้งด้านพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน และสร้างรายได้ให้ถึงชุมชน โดยจะขยายท่องเที่ยวพื้นที่รอง และสร้างโครงการท่องเที่ยวระดับชุมชน เชื่อมโยงทรัพยากรในพื้นที่ สร้างรายได้ชุมชน ปีละ 1.2 แสนล้านบาทภายใน 3 ปี เช่น ท่องเที่ยวเชิงเกษตร บ้านตะพง จ.ระยอง ท่องเที่ยววัฒนธรรม ทางน้ำ จ.ฉะเชิงเทรา ท่องเที่ยวสุขภาพ นันทนาการ จ.ชลบุรี

 

พร้อมเชื่อม SME สู่ตลาดโลก ให้ SME ไทยเป็นผู้จัดหาสินค้าและบริการหรือ Suppliers ให้นักลงทุนเทคโนโลยีเป้าหมาย รวมทั้งจัดพื้นที่เฉพาะ ให้สิทธิประโยชน์ที่เหมาะสม พร้อมส่งเสริมไปตลาดโลกด้วย E-Commerceรวมทั้งผลักดันโครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก (Eastern Fruit Corridor : EFC) ร่วมกับ อบจ.ระยอง ยกระดับเป็นโครงการหลัก ให้เกิดการลงทุนปี 2563 นี้ โดยเตรียมพื้นที่ 23 ไร่ รองรับที่ ต.มาบข่า จ.ระยอง

“สมคิด” เร่งลดผู้มีรายได้น้อยในอีอีซี 3.5 แสนคน

                                  นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์

 

อีกทั้ง จะลดผู้มีรายได้น้อยให้หมดไป ภายใน 3 ปี ซึ่งปัจจุบันในพื้นที่อีอีซีมีประชากรทั้งหมดประมาณ 3.4 ล้านคน ซึ่งจะได้รับการยกระดับคุณภาพชีวิตและมาตรฐานสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างงานให้คนรุ่นใหม่ วัยทำงาน โดยผู้มีรายได้น้อยประมาณ 3.5 แสนคนหรือประมาณ 14% จะเร่งการจัดฝึกอบรมพัฒนาอาชีพเฉพาะกลุ่ม จัดหางานในพื้นที่ร่วมกับจังหวัด อปท. เอกชน และชุมชน พร้อมจัดหางานให้กับผู้สูงอายุ โดยตั้งเป้าหมายให้ผู้มีรายได้น้อยกลุ่มนี้ ลดลงภายใน 3 ปี

 

ขณะที่การยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ทุกกลุ่มต้องเข้าถึงระบบประกันสุขภาพได้ โรงพยาบาลไม่แออัด ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาได้สะดวก รวดเร็ว การวินิจฉัยโรคถูกต้อง แม่นยำ


“สมคิด” เร่งลดผู้มีรายได้น้อยในอีอีซี 3.5 แสนคน

 

รวมทั้งเรื่องการศึกษา ที่จะพัฒนาทักษะบุคลากร ปรับเข้าสู่ Demand Driven เอกชนร่วมจ่าย : ในรูปแบบของ EEC Model คือ แบบเรียนฟรี มีงานทำ และ แบบจ่ายน้อยมีโอกาสทำงาน โดยมีแผนพัฒนาบุคลากรเร่งด่วน 20,000 คน จำนวน 120 หลักสูตร ให้ตรงความต้องการงานภายใน 1 ปี สร้างบัณฑิตอาสาเพื่อพัฒนาชุมชนเป้าหมาย 120 คน เปิดรับรุ่นแรก 30 คนเริ่มได้ทันที และผลิตอาชีวะมาตรฐานอินเตอร์ ฝึกอบรมครู พัฒนาสื่อการสอน

 

ส่วนการกำกับผังเมือง และสิ่งแวดล้อมด้วยพลังสตรี ใช้เครือข่ายสตรีกรมพัฒนาชุมชน เป็นกระบอกเสียง ขยายความเข้าใจ รวบรวมปัญหา และข้อเสนอแนะ พร้อมทั้งพัฒนา 3 เกาะ ได้แก่ เกาะสีชัง เกาะล้าน และเกาะเสม็ด เป็นพื้นที่ตัวอย่าง สร้างประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ลดความขัดแย้งและร่วมกันพัฒนาความเป็นอยู่ อย่างยั่งยืน และการก้าวสู่มาตรฐาน BCG โดยจะดำเนินการตามแผนสิ่งแวดล้อม ก้าวสู่ Circular Economy พัฒนาต้นแบบกำจัดขยะครบวงจร ขยะเกิดใหม่ และสะสมในพื้นที่ต้องหมดไปใน 12 ปี บูรณาการการลงทุนในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะผลักดันการบูรณาการงบประมาณในโครงการสำคัญอย่างเพียงพอ การลงทุนร่วมกับเอกชนที่มีความพร้อม