"สนธิรัตน์"ไม่หวั่นศึกซักฟอก เชื่อ”บิ๊กตู่”เอาอยู่

04 ม.ค. 2563 | 10:09 น.

"สนธิรัตน์"ลั่นพร้อมรับมือศึกซักฟอก ชี้เป็นกลไกปกติระบบรัฐสภา เชื่อ"บิ๊กตู่"เอาอยู่ เมินโหรทำนายการเมืองดุ ถึงขั้นวิกฤติ หวังความมั่นคงรัฐบาลจะนำพาผ่านพ้นไปได้

 

วันนี้ (4 ม.ค.63) ที่ อ.นาเยีย จ.อุบลราชธานี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อมคณะ ได้ไปตรวจเยี่ยมโครงการขับเคลื่อนผลักดันโรงไฟฟ้าชุมชน ที่บริษัท อุบลไบโอเอทานอล จำกัด(มหาชน)

 

นายสนธิรัตน์ กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า เรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านนั้นเป็นกลไกปกติของระบบรัฐสภาที่สามารถทำได้ ซึ่งเราต้องรอดูว่าจะยื่นอภิปรายรัฐมนตรีท่านใดบ้าง หรือจะอภิปรายทั้งรัฐบาล ในส่วนของรัฐบาลพร้อมจะชี้แจง ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการที่จะดำเนินการตามขั้นตอนรัฐสภา หากมีการยื่นญัตติดังกล่าว

 

เมื่อถามว่าจะถือว่าเร็วไปหรือไม่เพราะรัฐบาลเพิ่งทำงานได้ 4-5 เดือนเท่านั้น นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า อันนี้อยู่ที่มุมมอง เพราะเป็นสิ่งที่ทำได้ภายใต้รัฐธรรมนูญ

 

"สนธิรัตน์"ไม่หวั่นศึกซักฟอก เชื่อ”บิ๊กตู่”เอาอยู่

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคพลังประชารัฐ จำเป็นต้องตั้งองครักษ์พิทักษ์นายกฯ หรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะสามารถตอบชี้แจงในข้อที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายได้ ส่วนกลไกในสภาก็ว่ากันไป คงดำเนินไปตามปกติ

 

ส่วนที่มีโหรทำนายว่าการเมืองปีนี้จะต่อสู้กันหนักจนเข้าขั้นวิกฤติ ปัจจัยหลายๆ อย่างในปีนี้ จะนำไปสู้ขั้นนั้นหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า อยู่ที่ความมั่นคงของพรรคร่วมรัฐบาล การที่พรรคร่วมรัฐบาลมีเสถียรภาพมั่นคง ก็จะสามารถนำพารัฐบาลเดินหน้าไปได้ ตนรับฟังทุกฝ่ายที่มีความคิดเห็น และหน้าที่ของรัฐบาลคือจะต้องดำเนินการอย่างไรให้เกิดความมั่นคง และสร้างประโยชน์ให้ประชาชนได้ ส่วนเรื่องอื่นๆก็เป็นเรื่องปกติของการเมือง

 

"ผมคิดว่ารัฐบาลที่มั่นคง รัฐบาลที่มีศักยภาพ  และขับเคลื่อนนโยบายไปสู่ประชาชนนั้นเป็นเป้าหมายหลักที่รัฐบาลต้องทุ่มเท ยืนยันว่าตอนนี้รัฐบาลยังมั่นคงดี ไม่มีปัญหาอะไร"

 

เมื่อถามว่าหากฝ่ายค้านจะหยิบยกเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลมาอภิปราย นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ตนพร้อมชี้แจง ปัญหาเศรษฐกิจมีหลายปัจจัย ทั้งจากภายนอกคือเรื่องเศรษฐกิจโลก และจากภายในคือการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี แต่สิ่งที่เรามุ่งมั่นคือการเร่งรัดนโยบายของรัฐบาล แต่ละกระทรวง เพื่อเร่งแก้ปัญหา

 

ทั้งนี้  ยอมรับว่า การเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า มีผลต่อตัวเลขเศรษฐกิจ ซึ่งทุกอย่างมีขั้นตอนและกระบวนการ สิ่งที่เราต้องเตรียมการคือเมื่อพ.ร.บ.งบประมาณผ่านรัฐสภา ต้องเร่งรัดการใช้งบประมาณในช่วงเวลาที่เหลือของปี