นายณรงค์ คงมาก กรรมการผู้จัดการบริษัท วิสาหกิจเพื่อสังคมเกษตรกรลุ่มน้ำปากพนัง จำกัด เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” เมื่อช่วงก่อนปีใหม่ได้เชิญ นายถาวร มาแก้ว หัวหน้ากองวิจัยเศรษฐกิจยาง จากการยางแห่งประเทศไทย ส่วนกลางมาให้ข้อมูลและแนะนำเสนอแอพพลิเคชั่น ประมูลยางพารา หลังจากเครือข่ายตลาดอิเลคโทรนิค ยางพาราจังหวัดนครศรีธรรมราช ของชาวสวนยางพารา ร่วมกับ กยท. จังหวัดนครศรีธรรมราช และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ( พอช.) ได้นำร่องการประมูลยางก้อนถ้วยไปแล้ว 6 ครั้ง ในปี 2562
แอพฯ ประมูลยาง กยท.ใช้ชื่อว่า “ตลาดประมูลยางภูมิภาค” ทำงานบนระบบแอนดรอยด์ ผู้ออกแบบระบบได้พัฒนาการทำงานของแอพฯ ให้ง่ายต่อการใช้ได้ดี สามารถสมัครโดยการลงทะเบียน ได้ง่าย แต่ขั้นตอนการอนุมัติให้ผู้ที่ลงทะเบียนเข้าในระบบนั้น อาจต้องพัฒนาในด้าน”ความปลอดภัย” หรือ “การแสดงตัวตน สถานภาพของผู้เข้าใช้” ที่ต้องมีขั้นตอนลงทะเบียนที่เข้มงวดรัดกุม มากขึ้น
แต่โดยลักษณะการทำงานของแอพฯ ที่ง่าย สะดวก ในการใช้ การลงทะเบียน และการเข้าถึงที่ง่ายนั้น เป็นข้อดีที่ กยท.ยึดเป็นหลักการในการออกแบบ เพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึง ใช้งานง่าย เพียงแต่ปรับปรุงขั้นตอนการลงทะเบียน การอนุมัติให้ผู้ใช้ที่เป็นผู้ต้องการใช้แอพฯอย่างแท้จริงเท่านั้น และผ่านการอนุมัติจากผู้จัดการตลาด และผู้จัดการแอพฯ ( งานหลังบ้าน ) ก่อนเท่านั้น เข้าถึงการใช้งานของแอพฯ เวอร์ชั่นที่นำเสนอเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2562 ณ กยท.นครศรีธรรมราช สาขาร่อนพิบูลย์ ควรเป็นเวอร์ชั่นสาธิตการใช้งานเท่านั้น ทำให้ผู้เข้าร่วมประชุม สามารถสมัครและฝึกการใช้งานได้ทันที ส่วนเวอร์ชั่นในการประมูลจริง ควรเป็นอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง แยกออกมา แต่ระบบการทำงานเหมือนกัน ซึ่งในการออกแบบระบบ “การสอนการสาธิต” กับ “ระบบการประมูลจริง” ต้องแยกออกจากกันอย่างเด็ดขาด ไม่ให้มีการทำงานเชื่อมโยงกัน
นายณรงค์ กล่าวว่า ในที่ประชุมจึงไดเสนอให้ กยท.จังหวัด/สาขา และองค์กรเครือข่ายสมาชิก กยท. บริหารจัดการแอพฯนี้ด้วยองค์กรสมาชิกเอง เพราะเจ้าหน้าที่ กยท.อาจไม่เพียงพอในการบริหารจัดการแอพฯ หากมีการประมูลยางพารา ผ่านแอพฯนี้ในปริมาณมาก เกิดขึ้นทุกชั่วโมง ทุกวัน ทั้งนี้ ฝ่ายบริหารระบบหลังบ้านของแอพฯ ที่อยู่ “ส่วนกลาง” ต้องมีระบบและทีมงานรองรับที่มีประสิทธิภาพปลอดภัย สะดวก รวดเร็ว
การจัดหาผู้ประมูล (ผู้ซื้อ) เข้ามาในระบบ เป็นโอกาส จุดแข็งของแอพฯนี้ เพราะ กยท.เป็นเจ้าของระบบ สามารถเชื่อมโยงผู้ค้ายางทุกระดับ ทุกพื้นที่ ในประเทศ เพื่อให้รองรับการค้าผลผลิตยางพารา 5 ล้านตัน รวมทั้งผลิตภัณฑ์ในห่วงโซ่เศรษฐกิจและห่วงโซ่มูลค่ายางพารา ใช้แอพฯนี้ เป็นช่องการการตลาดให้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะ กยท.นครศรีธรรมราช ร่วมกับเครือข่ายตลาดชาวสวนยางนครศรีธรรมราช และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ( พอช. )ภาคใต้ ซึ่งมีประสบการณ์การจัดประมูลยางก้อนถ้วยมาแล้ว 6 ครั้ง ควรต่อยอดขยายผล การนำแอพฯนี้มาใช้งานทันที อย่างไรก็ดีการซื้อขายในประมูลยางทั้งผู้ซื้อและผู้ขายควรที่จะเน้น ความซื่อสัตย์ คุณภาพยาง เป็นความสำเร็จ การบริหารตลาดประมูลยางอิเลคโทรนิคได้ต่อไปในอนาคต