เตือนกับดัก  หุ้นปันผล  ราคาถูก-ยีลด์สูง

05 ม.ค. 2563 | 13:35 น.

เปิดหุ้นปันผลเด่น SETHD ให้ผลตอบแทนมากกว่า 4% แนะเข้าซื้อมกราคมและขายภายในสิ้นไตรมาส 1/63 ก่อนขึ้น XD โบรกฯ เตือนกับดักหุ้นราคาถูก-ยีลด์สูง แต่ภาพเติบโตไม่ชัดเสี่ยงขาดทุน แนะซื้อหุ้นสื่อสารช่วงราคาย่อตัว  กลุ่มแบงก์เลือกเป็นรายตัว

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรายงาน อัตราเงินปันผลตอบแทนหุ้นกลุ่มดัชนี SETHD : SET High Dividend (หุ้นพื้นฐานดีที่มีการจ่ายปันผลสูง 30 ตัวที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เลือก) ล่าสุด เดือนพฤศจิกายน 2562 เฉลี่ยอยู่ที่ 5.41% สูงกว่า SET ที่อยู่ระดับ 3.14% นอกจากนี้จากสถิติการเคลื่อนไหวหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลสูง โดยใช้ดัชนี SETHD TRI (SET High Dividend Total Return Index) ที่ได้รวมผลตอบแทนจากการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้น และเงินปันผลแล้ว เปรียบเทียบกับความเคลื่อนไหวของตลาดโดยรวม (SET TRI) พบว่าในช่วงเดือนมกราคม-เมษายนของทุกปี หุ้นปันผลมักจะให้ผลตอบแทนรวมดีกว่าตลาดประมาณ 4% จึงเป็นจังหวะเหมาะที่จะลงทุนหุ้นกลุ่มปันผลสูง

ฐานเศรษฐกิจได้รวบรวมหุ้นปันผลที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แนะนำ โดยเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยมากกว่า 4% และมีประวัติการจ่ายมาต่อเนื่องไม่น้อยกว่า5 ปี ได้แก่ บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) คาดให้อัตราเงินปันผลตอบแทนสำหรับผลประกอบการปี 2562 เฉลี่ย 7.20% ต่อปี, บมจ.ธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) 7.10% ต่อปี, บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 7% ต่อปี, บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) (AP) ประมาณ 4.7-5.0% ต่อปี, บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) ประมาณ 6.86% ต่อปี, บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH) ประมาณ 6.88% ต่อปี, บมจ.นํ้ามันพืชไทย (TVO) ประมาณ 5.25% ต่อปี

เตือนกับดัก  หุ้นปันผล  ราคาถูก-ยีลด์สูง

ส่วนบมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)ให้อัตราเงินปันผลตอบแทนสำหรับผลประกอบการปี 2562 ประมาณ 4.92%, บมจ.ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ประมาณ 4.25% ต่อปี, บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) ประมาณ 4.8% ต่อปี, บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) ประมาณ 4.85% ต่อปี, บมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส (HANA) ประมาณ 4.05% ต่อปี และ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ประมาณ 3.6% ต่อปี (อ่านตารางประกอบ : คาดผลตอบแทนสำหรับงวดครึ่งหลังปี 62)

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทยฯ ระบุว่า จากการศึกษาผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทยช่วงไตรมาสแรกของปี นับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินโลกในปี 2551 พบว่า SET Index ให้ผลตอนแทนเป็นบวกติดต่อกัน 10 ปี ด้วยอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 6% และคาดว่าทิศทางที่เคยเกิดขึ้นในอดีตจะเกิดขึ้นอีกครั้งในไตรมาส 1/2563 สืบเนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนจำนวนมาก นอกจากนั้นพบว่ากลยุทธ์การแสวงหาเงินปันผลนั้นจะให้ผลตอบแทนที่ SET Index ช่วงไตรมาส 1 ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา จากกรอบเวลาดังกล่าวพบว่า SETHD Index นั้นให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 7% เทียบกับ SET Index ที่ 4.0%

บล.กสิกรไทยฯ แนะให้นักลงทุนใช้กลยุทธ์ ซื้อเดือนมกราคม ขายเดือนเมษายน โดยที่นักลงทุนสามารถใช้กลยุทธ์การแสวงหาเงินปันผลด้วยการหาเลือกหุ้นปันผลจาก SETHD และทำการขายภายในสิ้นไตรมาส 1/2563 ก่อนหุ้นจะขึ้นเครื่องหมายหมดสิทธิรับปันผล (XD) หุ้นที่ให้ปันผลสูง ได้แก่ TISCO, SCB, ORI, AP, MAJOR, QH LH, ADVANC, INTUCH, KCE, HANA, PTTGC และ BCP

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวกับฐานเศรษฐกิจว่า ที่ผ่านมาราคาหุ้นหลายตัวได้ปรับขึ้นมามาก ทำให้หุ้นที่เคยให้อัตราผลตอบแทนสูงเริ่มไม่น่าจูงใจ แต่ยังลงทุนได้โดยซื้อเมื่อราคาปรับลง อย่างหุ้นกลุ่มสื่อสาร ADVANC อัตราเงินปันผลตอบแทนเหลือเพียง 3.5% จากที่จ่ายสูงถึง 4.5% และกลายเป็นว่าหุ้นที่ให้ปันผลสูงกลับอยู่ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก แต่หุ้นกลุ่มอสังหาฯปีนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว จึงควรเลือกลงทุนเป็นรายตัว ในหุ้นที่มีทิศทางเติบโต หรือที่เน้นเพื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลัก เพราะมาตรการของธปท.เรื่อง LTV ก็ดีอาจส่งผลกระทบหุ้นกลุ่มคอนโดฯที่เก็งกำไรได้ หุ้นที่แนะนำ ได้แก่ AP ให้ราคาพื้นฐานที่ 8.50 บาท และ SPALI ให้ราคาพื้นฐานที่ 23.00 บาท

ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคาร แม้ราคาจะปรับลดลงมาจนบางตัวต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชี  แต่ยังต้องระมัดระวังเพราะการฟื้นตัวคาดเป็นช่วงไตรมาส 4/2562 อีกทั้งแนวโน้มปี 2563 กำไรอาจชะลอตัวจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่ลดลง ฉะนั้นภาพการลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคารจึงมองเป็นลักษณะการเก็งกำไรมากกว่าที่เป็นหุ้นปันผล โดยหุ้นแบงก์ที่ยังให้ผลตอบแทนดี อาทิ TISCO ให้เงินปันผลเฉลี่ย 7.7%, KTB 4.70% เป็นต้น

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บมจ.บริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัส กล่าวกับฐานเศรษฐกิจว่าเชียร์หุ้นปันผลกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ อาทิ LH, AP, SPALI ให้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี 7% หุ้นกลุ่มสื่อสาร ได้แก่ INTUCH และ ADVANC แนะซื้อช่วงราคาย่อตัว รวมถึงหุ้น PTT, PYLON และ MCS ซึ่งให้อัตราผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 4.5%

หุ้นกลุ่มธนาคาร ราคาปรับลงมามากก็จริง จนส่งผลให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงแต่หากดูจากภาพรวมธุรกิจปีนี้ยังไม่มีเชิงบวกที่จะเลือก

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,537 วันที่ 5-8 มกราคม 2563

                   เตือนกับดัก  หุ้นปันผล  ราคาถูก-ยีลด์สูง