ครม.ไฟเขียวกรอบเจรจาผนึกการค้าบังกลาเทศ

02 ม.ค. 2563 | 10:18 น.


   ครม.ไฟเขียวกรอบเจรจาผนึกการค้าบังกลาเทศ

ดร.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้(2 ม.ค.2563)ว่า ครม.มีมติเห็นชอบท่าทีไทยสำหรับการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ไทย – บังกลาเทศ ครั้งที่ 5 ตามข้อ 2  เพื่อให้คณะผู้แทนไทย ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้แทนเป็นประธานฝ่ายไทย ใช้หารือกับฝ่ายบังกลาเทศ 
    

ทั้งนี้ หากในการประชุมดังกล่าว มีผลให้มีการตกลงเรื่องความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าในประเด็นอื่น ๆ นอกเหนือจากข้อ 2 อันจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างไทยกับบังกลาเทศ ให้คณะผู้แทนไทยสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
                   

การประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee : JTC) ไทย – บังกลาเทศ ครั้งที่ 5 เป็นเวทีการประชุมหารือระดับรัฐมนตรีการค้า เกี่ยวข้องกับการกำหนดทิศทางความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับบังกลาเทศ และแนวทางจัดทำความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพร่วมกัน หรือเอื้อประโยชน์ต่อกัน ได้แก่ การอำนวยความสะดวกทางการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจด้านต่าง ๆ อาทิ อุตสาหกรรม เกษตร ประมง บริการสุขภาพและสาธารณสุข และความเชื่อมโยงทางคมนาคม
                 

 

ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้จัดประชุมเตรียมการฝ่ายไทย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2562 เพื่อพิจารณาประเด็นที่ฝ่ายไทยประสงค์จะผลักดันในการประชุม JTC ไทย – บังกลาเทศ ครั้งที่ 5  ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระหว่างวันที่ 8 – 9 มกราคม 2563 ณ กรุงเทพ  โดยเห็นควรเสนอท่าทีไทย ดังนี้
                             

1. การค้าและการลงทุน หารือแนวทางการส่งเสริมการค้าและการลงทุน รวมถึงการขจัดอุปสรรคทางการค้าสองฝ่าย เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันเป็น 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2564
                             

2. ความเป็นไปได้ในการจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย – บังกลาเทศ หารือเกี่ยวกับการจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย – บังกลาเทศ โดยให้สองฝ่ายแลกเปลี่ยนผลการศึกษาการจัดทำ FTA ระหว่างกัน
                           

 

3. การให้สิทธิพิเศษในการยกเลิกภาษีนำเข้าและโควตา (DFOF) ไทยอยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อต่ออายุโครงการ DFOF ที่จะหมดอายุลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2563 โดยจะมีการพิจารณาทบทวนรายการสินค้าและกฎหมายถิ่นกำเนิดสินค้าภายใต้โครงการดังกล่าว ซึ่งไทยจะนำสินค้าที่บังกลาเทศร้องขอเพิ่มเติมมาพิจารณาด้วย
                             

4. ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ไทยยินดีให้ความร่วมมือกับบังกลาเทศในด้านต่าง ๆ ได้แก่ ด้านอุตสาหกรรม ด้านเกษตร ด้านการประมงและปศุสัตว์ ด้านบริการสุขภาพและสาธารณสุข การเชื่อมโยงทางคมนาคม
                             

5. ในโอกาสเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์จะจัดกิจกรรมอื่น ที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและบังกลาเทศ อาทิ การสัมมนาโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับบังกลาเทศ