ทรัมป์ยันลงนาม 15 มกรา “ข้อตกลงการค้าเฟส1”

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ส่วนตัวระบุว่า เขาจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟส1 กับจีนที่ทำเนียบขาวในวันที่ 15 ม.ค.นี้ และหลังจากนั้นเขาจะเดินทางไปยังกรุงปักกิ่งเพื่อเริ่มการหารือเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเฟส 2 แต่ยังไม่ได้กำหนดวันที่แน่นอน ผู้นำสหรัฐฯยังระบุด้วยว่า ตัวแทนระดับสูงฝ่ายจีนจะเข้าร่วมในพิธีลงนามข้อตกลงสำคัญนี้

เมื่อมีการสอบถามไปยังทำเนียบขาวว่า ผู้แทนระดับสูงฝ่ายจีนที่ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวถึงนั้นคือใคร ยังไม่มีผู้ใดให้คำตอบ แต่เคยมีรายงานข่าวในช่วงสัปดาห์นี้ว่า ผู้แทนฝ่ายจีนที่จะเป็นผู้ลงนาม อาจเป็นนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีที่เป็นหัวหน้าคณะเจรจา
 

ข้อตกลงเฟส1 เป็นข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ตกลงกันได้แล้วเพียงบางส่วนเมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา แต่ก็เป็นส่วนที่สำคัญในความพยายามที่จะลดการเผชิญหน้าในลักษณะการเป็นปฏิปักษ์ต่อกันและบรรเทาความรุนแรงของสงครามการค้าที่เกิดขึ้นมาแล้วเป็นเวลาเกือบ 2 ปี 

สหรัฐฯและจีนเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด 2 อันดับแรกของโลก การตกลงกันได้ที่จะลงนามในข้อตกลงการค้าฉบับนี้ หมายถึงการที่รัฐบาลทั้ง 2 ฝ่ายตกลงระงับการขึ้นกำแพงภาษีเพิ่มเติมระหว่างกัน พร้อมทั้งยินยอมจะปรับภาษีที่ขึ้นไปแล้วให้ลดลงมาเป็นบางส่วน นอกจากนี้ จีนยังรับปากจะเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯเป็นจำนวนมากซึ่งครอบคลุมสินค้าการเกษตร พลังงาน และสินค้าภาคบริการ ตลอดจนยอมปรับแก้ไขกฎเกณฑ์บางอย่างเกี่ยวกับการให้ความคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาและการถ่ายทอดเทคโนโลยี  

ขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯที่กำลังจะมีขึ้นต้นเดือนพฤศจิกายนใกล้เข้ามาทุกที ประเด็นที่ผู้นำสหรัฐฯให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ คือ การทำข้อตกลงการค้ากับจีนให้ครอบคลุมทั่วทุกประเด็นที่เป็นปัญหาและแก้ไขพฤติกรรมการค้าของจีนที่สหรัฐฯเห็นว่าเป็นการเอาเปรียบ การเผชิญหน้าทางการค้าระหว่างทั้ง 2 ประเทศที่ยืดเยื้อมายาวนานเกือบ 2 ปี สร้างความกังวลใจให้กับตลาดการเงินและผู้ลงทุนทั่วโลก เพราะเกรงว่าการตอบโต้ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนจะส่งผลฉุดรั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในภาพรวมให้ชะลอตัวลง

นายปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาด้านการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งสนับสนุนให้สหรัฐฯใช้มาตรการแรงๆกับจีนมากกว่าที่ปรึกษาคนอื่นๆในทำเนียบขาว  ได้ออกมาให้ความเห็นกับสื่อใหญ่อย่างซีเอ็นบีซี เมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า ข้อตกลงการค้าฉบับนี้มีเนื้อหาที่สำคัญมากประกอบอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาและการเปิดตลาดด้านการเงินของจีน  ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์เองเคยให้สัมภาษณ์สื่อว่า ข้อตกลงการค้าเฟส1 อาจจะเกิดขึ้นได้หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯปลายปีนี้ผ่านพ้นไปก่อน แต่สุดท้ายเขาก็เปลี่ยนท่าที หันมาเดินหน้าผลักดันให้เกิดการลงนามข้อตกลงฉบับนี้โดยเร็วที่สุด

หลังการบังคับใช้ข้อตกลงเฟส1 สหรัฐฯจะยังคงกำแพงภาษี 25% ที่เรียกเก็บจากสินค้าจีนวงเงิน 250,000 ล้านดอลลาร์เอาไว้ แต่จะลดภาษีลงครึ่งหนึ่งเหลืออัตรา 7.5% ให้กับสินค้าจีนอีกล็อตหนึ่งวงเงิน 120,000 ล้านดอลลาร์