หนี! คาร์ลอส กอส์น อดีตผู้บริหารนิสสัน ลั่นไม่ขอกลับไปสู้คดีที่ญี่ปุ่น

นายคาร์ลอส กอส์น อดีตประธานบริษัทนิสสัน มอเตอร์ วัย 65 ปีที่ถูกจับกุมดำเนินคดีที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2561 ด้วยข้อกล่าวหาทุจริตทางการเงิน  ปกปิดรายได้ที่แท้จริงของตนเองเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี และนำทรัพย์สินของบริษัทไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว ออกมาแถลงยืนยันแล้ววันนี้ (31 ธ.ค.) ว่า ขณะนี้เขาอยู่ที่ประเทศเลบานอน และจะไม่กลับไปเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีที่ประเทศญี่ปุ่นอีก

ทั้งนี้ คาร์ลอส กอส์น มีสถานะได้รับการประกันตัวและอยู่ในระหว่างรอถูกนำตัวขึ้นพิจารณาคดีที่ประเทศญี่ปุ่น “ผมอยู่ที่เลบานอนแล้ว และจะไม่กลับไปถูกกักขังเป็นตัวประกันในระบบยุติธรรมที่ฉ้อฉลของประเทศญี่ปุ่นอีกต่อไป ที่นั่นความผิดถูกตั้งลำไว้ก่อน อคติและอยุติธรรมปลิวว่อน สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานถูกริดรอน” ส่วนหนึ่งของแถลงการณ์ระบุ

สื่อต่างประเทศรายงานก่อนหน้านี้ว่า ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า มีการแก้ไขเงื่อนไขการประกันตัวที่ห้ามเขาเดินทางออกนอกประเทศหรือไม่ หรือว่าเขาเดินทางออกนอกญี่ปุ่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็แปลว่าเขาหนีคดี สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า ศาลกรุงโตเกียวระบุเงื่อนไขการประกันตัวของคาร์ลอส กอส์นไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง เขาไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายในญี่ปุ่นระบุว่า เขาอาจเดินทางออกนอกประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต

“ผมไม่ได้หนีคดี แต่ผมหนีความอยุติธรรมและการดำเนินคดีที่มีแรงจูงใจทางการเมือง ตอนนี้ผมมีอิสระแล้วที่จะพูดคุยกับสื่อมวลชน และหวังว่าจะได้ทำเรื่องนี้ในสัปดาห์หน้า” กอส์นกล่าว  ด้านกระทรวงยุติธรรมของญี่ปุ่นยังไม่ได้ให้คำตอบสื่อมวลชนเมื่อมีการถามความเห็นเกี่ยวกับแถลงการณ์ของนายคาร์ลอส กอส์น

ย้อนกลับไปในช่วงปลายปี 2561 อดีตผู้บริหารบริษัทนิสสัน มอเตอร์คนนี้ ถูกบริษัทปลดจากตำแหน่งและถูกทางการญี่ปุ่นจับกุมตัวในเวลาต่อมา หลังจากที่นายฮิโรโตะ ไซคาวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของนิสสันในเวลานั้น กล่าวหาเขาและนายเกร็ก เคลลี่ ผู้บริหารของบริษัทอีกคนหนึ่ง กระทำการทุจริตทางการเงิน โดยทั้งคู่ปกปิดการสั่งจ่ายเงินกว่า 327 ล้านดอลลาร์ของบริษัทเข้าเป็นของตัวเอง โดยในจำนวนนี้ 187 ล้านดอลลาร์เป็นเงินชดเชยที่ไม่เปิดเผยที่มาที่ไป และ 140 ล้านดอลลาร์เป็นการเบิกค่าใช้จ่ายอันไม่สมควร ข้อมูลดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของรายงานการตรวจสอบภายในองค์กรของบริษัทเองซึ่งมีการเผยแพร่เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ในเดือนเดียวกันนั้น นายไซคาวะ ได้แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งเช่นกันเนื่องจากผลการตรวจสอบภายในองค์กรพบว่า เขาเองก็มีส่วนได้รับเงินจำนวนมากจากบริษัทอย่างไม่เหมาะสม

ทั้งนี้ การถูกดำเนินคดีทำให้กอส์นถูกปลดจากตำแหน่งในบริษัทเรโนลต์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของประเทศฝรั่งเศส และจากตำแหน่งประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มพันธมิตร นิสสัน-เรโนลต์-มิตซูบิชิ  ด้วย

สื่อหลายสำนักระบุว่า กอส์นเดินทางออกจากญี่ปุ่นไปถึงเมืองหลวงเบรุตของประเทศเลบานอนในช่วงเย็นวันจันทร์ (30 ธ.ค.) เขาเกิดที่นั่น และถือสองสัญชาติ(ทั้งฝรั่งเศสและเลบานอน) ทั้งนี้ ญี่ปุ่นและเลบานอนไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนร่วมกัน ความเป็นไปได้ในการที่กอส์นจะเดินทางกลับมาขึ้นศาลตามกำหนดในเดือนเม.ย. 2563 ที่ญี่ปุ่นจึงแทบเป็นศูนย์