OUTLOOK ‘ท่องเที่ยว’ ปี 63
เปิดศักราชปี 2563 ภาค การท่องเที่ยวตลอดทั้งปีนี้ จะมีเรื่องใดอยู่ในกระแสบ้าง “ฐานเศรษฐกิจ” จับประเด็นมานำเสนอ
ท่องเที่ยวยังโตแผ่ว
การขับเคลื่อนการท่องเที่ยวของไทยในปีนี้ รัฐบาลมองเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยอยู่ที่ 41.8 ล้านคน และคาดหวังรายได้ที่ 2.2 ล้านล้านบาท แต่เมื่อดูจากสถานการณ์ท่องเที่ยวในปีที่ผ่านมา และแนวโน้มปีนี้ คนในแวดวงนี้มองว่าก็คงไม่ต่างจากปีที่ผ่านมา และคาดการณ์ว่าการเติบโตของการท่องเที่ยวของไทยในปีนี้ก็คงจะอยู่ในระดับขยายตัวเท่ากับปีที่แล้วคือราว 4 % เท่านั้น (ตารางประกอบ) หรืออาจแย่ลง
เนื่องจากปัจจัยลบเดิมๆก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม โดยเฉพาะการแข็งค่าของเงินบาทที่ยังคงสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากการบุกโปรโมตการท่องเที่ยวของประเทศคู่แข่ง อาทิ มาเลเซียที่ในปีนี้ ประกาศให้แคมเปญ Visit Truly Asia Malaysia 2020 และมีการเปิดตัวสถานที่ท่องเที่ยวใหม่อย่าง 20th Century Fox World เปิดเกาะปลอดภาษีแห่งใหม่ เช่นเกาะปังกอร์ อีกทั้งในปีนี้ยังมีอีเวนต์ระดับโลกมาเป็นตัวดึงตลาด อย่างโอลิมปิก 2020 ประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 24 ก.ค.-9 ส.ค. 2563 ส่วนแผนการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวของไทยในปีนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯโฟกัสในเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงกีฬา เน้นการดึงกีฬาและอีเวนต์ ระดับสากลให้เข้ามาจัดในไทย เพื่อดึงนักท่องเที่ยว เหมือนการจัดโมโตจีพี ที่จัดครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ การจัดแข่งอี-สปอร์ตชิงแชมป์โลก การจัดรายการวิ่งเทรล ตามแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ การรุกเจาะตลาดใหม่ด้านการท่องเที่ยว และการใช้แคมเปญครบรอบ 60 ปีของทั้งการบินไทยและการท่องเที่ยวแห่งประเทศ (ททท.) ทำงานร่วมกันเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว
ดันเศรษฐกิจฐานราก
นอกจากกระตุ้นการท่องเที่ยวภาพใหญ่แล้ว ในปีนี้ยังจะเห็นรัฐบาลทำอีกหลายโครงการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก อาทิ การจัดกิจกรรมถนนคนเดินทั่วประเทศ ภายใต้โครงการ “เดิน กิน ชิม เที่ยวถนนคนเดิน ระดับจังหวัด” การส่งเสริมสตรีตฟู้ด โดยรัฐบาลได้ผนึกกำลังภาคเอกชนพร้อมเชฟระดับโลกภายใต้โครงการ “Thailand Street Food Festival 2020” ยกระดับสตรีตฟู้ดไทย กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว
โดยจะจัดใน 6 พื้นที่ครั้งแรก วันที่ 1-2 ก.พ.นี้ บริเวณถนนสีลมครั้งที่ 2 วันที่ 29 ก.พ.-1 มี.ค.นี้ ณ จ.พระนครศรีอยุธยา ครั้งที่ 3 วันที่ 3-6 เม.ย. ที่พัทยา ครั้งที่ 4 วันที่ 25- 26 เม.ย. ที่ จ.เชียงใหม่ ครั้งที่ 5 วันที่ 1- 3 พ.ค. ที่จ.ขอนแก่นและครั้งที่ 6 วันที่ 30-31 พ.ค. ที่ จ.ภูเก็ต
ทั้งนี้การจัดถนนคนเดินและการส่งเสริมสตรีตฟู้ด ก็จะช่วยขยายฐานการใช้จ่ายด้านอาหารเพิ่มขึ้น ซึ่งจากข้อมูลของยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล พบว่า ในปี 2560 ภาพรวมตลาดอาหารริมทางในประเทศไทย หรือสตรีตฟู้ดส์ มีมูลค่า2.7 แสนล้านบาท และคาดว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 3.40 แสนล้านบาท ในปี 2564 ซึ่งในปี 2559 มีผู้ประกอบการอิสระที่ดำเนินธุรกิจร้านอาหารริมทางราว 1.03 แสนร้าน คิดเป็น 69% ของร้านอาหารทั้งหมด และเป็นมูลค่าราว 2.28 แสนล้านบาท มีอัตราเติบโตเฉลี่ย 5.4% ต่อปี
รวมถึงการขยาย Home lodge (ที่พักที่จะทำให้นักท่องเที่ยว เข้าถึงวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น)ได้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้นรองรับนักท่องเที่ยวเดินทางด้วยตัวเองหรือเอฟไอที ซึ่งกรมการท่องเที่ยวจะดึงผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กรวมถึงชุมชนใน 4 ภูมิภาคของไทยเปิดHome Lodge ครั้งแรกในปี 2563 ตั้งเป้าหมาย 600 แห่ง และเพิ่มเป็น 1,500 แห่งต่อไป คาดว่าจะมีผู้เข้าพักหมุนเวียน 1 หมื่นรายต่อปี
10 เทรนด์ท่องเที่ยว 2020
สำหรับเทรนด์การท่องเที่ยวในปีนี้จะมีความโดดเด่นใน เรื่อง ได้แก่ 1. Solo Travel หรือเที่ยวคนเดียวไม่ง้อใคร 2. กระแสเที่ยวรักษ์โลก อย่าง อีโค ทัวริซึม และการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน (เที่ยวแบบ ลดขยะ ช่วยโลกลดความร้อน ไม่มีพลาสติก ซีเอสอาร์) 3. โลคัล เอ็กซ์พีเรียนซ์ ซึ่งในยุคปัจจุบันคนจะมองหาประสบการณ์ในการเดินทางและท่องเที่ยว
4. การเดินทางท่องเที่ยวแบบเอฟไอที (เดินทางเที่ยวด้วยตัวเองไม่ผ่านกรุ๊ปทัวร์) ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ยิ่งทำให้บริษัทนำเที่ยวอยู่ยากขึ้นไปอีก 5. การท่องเที่ยว Bleisure Travel การท่องเที่ยวระหว่างการเดินทางไปทำธุรกิจ โดยเฉพาะการเติบโตของนักท่องเที่ยวกลุ่มมิลเลนเนียม ซึ่งคาดว่าการใช้จ่ายของ Bleisure ทั่วโลกจะสูงถึง1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
6. การท่องเที่ยวในกลุ่มแอคทีฟ ซีเนียร์ ซึ่งเป็นไปตามการเติบโตของสังคมสูงวัย 7. การท่องเที่ยวเมืองรองจะได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น 8. สัตว์เลี้ยงมาเป็นอันดับหนึ่งเจ้าของสัตว์เลี้ยงทั่วโลกให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงเหมือนเป็นลูก นักท่องเที่ยวจึงต้องการที่พักที่สามารถพาสัตว์เลี้ยงไปด้วยได้ และเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง โดยไม่เกี่ยงถ้าจะต้องจ่ายเพิ่ม 9. การเดินทางท่องเที่ยวที่มากกว่า 2 เจเนอเรชันกำลังมาแรง เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว จะไม่ได้มีแค่พ่อแม่ลูกเท่านั้น แต่ปู่ย่าตายาย จะร่วมเดินทางไปท่องเที่ยวพร้อมกันทั้งครอบครัว
10. ทราเวล เทค ซึ่งเทคโนโลยีต่างๆ จะมีบทบาทในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Robots, chatbotsand automation ที่ถูกนำมาใช้ในการบริการนักท่องเที่ยวมากขึ้น รวมไปถึงแอพพลิเคชันที่จะถูกพัฒนาขึ้นมาในลักษณะดิจิทัล แพลตฟอร์ม เพิ่มมากขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว
ขณะที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(Artificial Intelligence หรือ AI) ก็จะมีบทบาทมากขึ้น ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ในการวิเคราะห์ข้อมูลด้านการท่องเที่ยวเพื่อนำเสนอบริการที่เข้าถึงความต้องการของนักท่องเที่ยว รวมไปถึง Recognition technology ที่จะถูกนำมาใช้ในการสร้างความรวดเร็วในการให้บริการ อาทิ การสแกนใบหน้าเช็คอินภายในสนามบิน ที่กำลังจะ ถูกพัฒนาการให้บริการนี้ในไทย
ขณะเดียวกันเทคโนโลยีที่นักท่องเที่ยวต้องการมากที่สุด คือ โมบายแอพที่มีเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) เทคโนโลยีที่ผสานโลกแห่งความจริงเข้ากับโลกเสมือน ที่จะฉายภาพบริการให้เห็นได้เหมือนได้เดินทางไปสัมผัสของจริง
รายงาน : ธนวรรณ วินัยเสถียร
หน้า 12 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,536 วันที่ 2 - 4 มกราคม พ.ศ. 2563
