ปิดฉากปี 2562 ใครรุ่ง-ร่วง

ในรอบปี 2562 เกิดความเคลื่อนไหวในธุรกิจท่องเที่ยวที่สำคัญมากมาย โดย “ดาวรุ่ง” ที่สามารถกำชัยชนะทางธุรกิจได้ คงหนีไม่พ้น “กลุ่มคิงเพาเวอร์” ซึ่งยอมทุ่มสุดตัวเสนอราคาประมูลสูงลิ่ว ทิ้งขาดคู่แข่งระดับบิ๊กดิวตี้ฟรีโลกและรีเทลระดับท็อปของไทย จนสามารถยึดฐานที่มั่นในธุรกิจดิวตี้ฟรีและรีเทลในทุกสนามบินที่หมดสัญญากับบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)หรือทอท.ได้สำเร็จ เพราะเป็นCore Business) และไทยก็เป็นแลนด์มาร์กและศูนย์กลางในการแข่งขันในธุรกิจดิวตี้ฟรีของคิงเพาเวอร์ในระดับโลกด้วย

การชนะประมูลที่เกิดขึ้น จึงเป็นแต้มต่อสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจดิวตี้ฟรีของคิงเพาเวอร์ ที่ภายใต้เป้าหมาย5 ปี (ปี 2560-2564) ที่จะผลักดันยอดขายดิวตี้ฟรีจากอันดับ 7 ของโลก ราว 8 หมื่นล้านบาท ขยับมาเป็นอันดับ 5 ของโลก ภายใต้เป้าหมายยอดขายที่ 1.4 แสนล้านบาท

ขณะที่ “ทอท.” ในปี 2562 แม้ธุรกิจสายการบินจะกระทบหนัก และการท่องเที่ยวจะ เติบโตถดถอย แต่ผลประกอบการ ของทอท.ในปีงบประมาณ 2562 ก็ยังคงมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้กว่า 6.49 หมื่นล้านบาท ขณะที่กำไรก็ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยทำกำไรได้กว่า 2.5 หมื่นล้านบาท และยังขึ้นแท่นเบอร์ 1 มาร์เก็ตแคปใหญ่ที่สุดในโลกในกลุ่มสนามบินอีกด้วย

สำหรับธุรกิจโรงแรมแม้ในภาพรวมของธุรกิจอาจจะทรุดตัวมาก เพราะการท่องเที่ยวขยายตัวตํ่า สวนทางกับโรงแรมมีอยู่จำนวนมาก แต่ก็เป็นปีที่กลุ่มอสังหาฯระดับบิ๊กเนม หันมารุกขยายการลงทุนโรงแรมอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อกินยาวรอการท่องเที่ยวกลับมาผงาดอีกครั้ง

โดยในปีนี้จะเห็นมีการนำบริษัทเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (ตลท.) และเปิดขายหุ้นIPO เพื่อมารุกธุรกิจนี้เพิ่มขึ้น แม้การออกIPO ที่เกิดขึ้นจะตํ่าจองก็ตาม ไม่ว่าจะเป็น “บริษัทแอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด” หรือAWC ขณะที่กลุ่มสิงห์เอสเตท ก็นำบริษัทเอสโฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือSHR เข้าจดทะเบียนและระดมทุนในตลท. รวมถึงการออก IPO ของ “บริษัทวีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน)หรือ VRANDA เพื่อขยายพอร์ตธุรกิจที่จะเกิดขึ้น

ส่วนธุรกิจสุดอ่วมในปีนี้คงหนีไม่พ้นธุรกิจการบิน ที่ทุกสายการบินขาดทุนบักโกรก โดยผลการดำเนินงานของ 4 สายการบินหลักของไทยในช่วง 9เดือนแรกของปีนี้ อย่าง การบินไทย, นกแอร์, บางกอกแอร์เวย์ส (BA)และไทยแอร์เอเชีย(AAV) ที่มีผลขาดทุนรวมกันกว่า 1.32 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 7.20 พันล้านบาท แถมราคาหุ้นตอนนี้ก็ยังตํ่ากว่าราคา IPO ขณะที่ธุรกิจโรงแรมก็อ่วมถ้วนหน้า เพราะขนาดเจ้าของธุรกิจโรงแรมระดับท็อปของประเทศ อย่างดิเอราวัณ กรุ๊ป, เซ็นทารา, ดุสิตธานี ต่างก็กำไรหดถ้วนหน้า อันเป็นผลมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวไทยในปี 2562 ขยายตัวราว 3% ตํ่าจากการเติบโตปกติที่ควรจะเป็น

รายงาน : ธนวรรณ  วินัยเสถียร

หน้า12 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,535 วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2562-1 มกราคม พ.ศ. 2563