เทรนด์การรุกพื้นที่ห้างของค่ายรถยนต์ -ค่าย 2 ล้อเริ่มได้รับความนิยม หลังจากพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว โดยในช่วงที่ผ่านมากลุ่มรถหรู แบรนด์พรีเมียมต่างปักหลักมีโชว์รูมหน้าร้านอยู่ในห้างกันหลากหลาย แบรนด์ ขณะที่กลุ่มรถมอเตอร์ไซค์นั้นยังถือว่ามีน้อย ซึ่งตัวอย่างที่ผ่านมา คือ ค่ายบีเอ็มดับเบิลยูมอเตอร์ราด ที่เคยเปิดทั้งเซ็นทรัลเวิลด์, สยามพารากอน, ไอคอนสยาม และอีกหนึ่งแบรนด์คือ ฮาร์ลีย์ - เดวิดสัน ที่สยามพารากอน
การเปิดพื้นที่ขายในห้างของค่ายบิ๊กไบค์พรีเมียม มีทั้งประสบความสำเร็จและมีโบกมือลากันไป ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการสิ้นสุดสัญญาระยะเช่า หรืออาจจะด้วยยอดไม่เป็นไปตามเป้า อย่างไรก็ดีพื้นที่ตรงนี้ก็ยังเนื้อหอม ล่าสุดน้องใหม่อย่าง Gear Garage by Factory Gear ตัดสินใจเข้ามาเปิดโชว์รูมแฟล็กซิพใจกลางเมืองอย่างเซ็นทรัลเวิลด์
“ลูกค้าในปัจจุบันมีความหลากหลาย และเราอยากให้ลูกค้าได้เข้าถึงแบรนด์มากขึ้น จึงตัดสินใจ เข้ามาเปิดที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ แต่รูปแบบที่สาขานี้จะแตกต่างกับสาขาแรกที่เมกาบางนา ที่เราขายรถคาวาซากิกับอุปกรณ์ช่าง โดยสาขานี้เรานำรถคลาสสิกอย่าง แลมเบรตตาและเปอโยต์ มาขายเพื่อจะรองรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในเมือง” นายวุฒิ เลิศรัตน์โกสุมภ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วีร่า พรีเมี่ยมทูลส์ จำกัด ผู้บริหารแบรนด์ Gear Garage by Factory Gear กล่าว
สำหรับ Gear Garage by Factory Gear สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ลงทุน 20 ล้านบาท ตั้งอยู่บนชั้น 5 ฝั่งห้างเซ็นทรัล โดยภายในร้านมีมอเตอร์ไซค์คลาสสิก 2 แบรนด์อย่าง แลมเบรตตา (Lambretta) จากประเทศอิตาลี ที่มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ วี-สเปเชียล 200 และวี-สเปเชียล 125 และ เปอโยต์ (PEUGEOT) จากประเทศฝรั่งเศส ที่มาพร้อมรุ่น DJANGO 150
นอกจากนั้นแล้วยังมีอุปกรณ์ช่าง-เครื่องไม้เครื่องมือ ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ อาทิ แบรนด์ SNAP-ON, BLUE-POINT, WERA, KLEIN , KNIPEX ,Hazet, Rothenberger, Nobar , Milwaukee และ Deen
“เรามีรถให้ลูกค้าได้ทดลองขับขี่ ส่วนบริการหลังการขายนั้นจะใช้พื้นที่ของศูนย์ที่รวมไปถึงที่สาขาเมกาบางนาด้วย ขณะที่อุปกรณ์เครื่องมือช่างนั้น การที่เราเข้ามาอยู่ในห้างก็จะอำนวยความสะดวกของลูกค้าอย่างมาก เพราะมีทั้งที่จอดรถ พร้อมกันนี้เรามีพนักงานคอยอธิบาย เล่าเรื่องราวของเครื่องมือแต่ละชิ้นได้และแนะนำเครื่องมือที่ถูกต้องแก่ลูกค้าได้ มีบริการหลังการขายรองรับ” นายวุฒิ กล่าว
ถือเป็นการขยับตัวเพื่อเพิ่มช่องทางการขายที่หลากหลายและรองรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุคปัจจุบัน ซึ่งหากผลการตอบรับของสาขานี้ดีและเป็นไปตามเป้า ทางกลุ่ม Factory Gear ก็เตรียมขยายในแถบโซนเหนือ และใต้ ของกรุงเทพฯ และปริมณฑลเพื่อให้ครอบคลุม
Factory Gear ยังให้ความสำคัญกับระบบหลังบ้าน - การขายออนไลน์ รวมไปถึงกลยุทธ์การตลาด โดยแต่ละปีจะใช้งบในส่วนนี้ประมาณ 10 ล้านบาท ล่าสุดได้เพิ่มการขายออนไลน์ ที่ร่วมกับช้อปปี้และลาซาด้า พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์แบรนด์ผ่านโซเชียลมีเดีย และปรับปรุงเว็บไซต์ มีทีมขายออนไลน์
คาดว่าจากแนวรุกทั้งหมดทั้งมวลในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมียอดขายประมาณ 100 ล้านบาท และในปีหน้าคาดว่าจะทำได้ 150 ล้านบาท โดยสัดส่วนการขายหลักๆ จะมาจากมอเตอร์ไซค์ 60%, เครื่องมือช่าง 25% และอีก 15% จะเป็นแอกเซสซอรีต่างๆ
ขณะที่อีกหนึ่งแบรนด์ที่มาร่วมแจมพื้นที่ขายในห้างคือ “ยามาฮ่า” เมื่อเร็วๆ นี้ได้เปิดร้านขายมอเตอร์ไซค์ในกลุ่มรถสปอร์ต โดยใช้ชื่อว่า Yamaha Revs Venue ตั้งอยู่ที่ห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์ วิลล์ ซึ่งพื้นที่ขายนอกจากจะมีรถในกลุ่มสปอร์ตทุกรุ่นให้ลูกค้าได้สัมผัสแล้ว ยังมีอุปกรณ์เสื้อผ้า ชุดแต่ง อะไหล่ มาให้เลือกสรร โดยลูกค้าสามารถจองรถได้เลยทันที เพราะจะมีเจ้าหน้าที่จากดีลเลอร์ต่างๆ หมุนเวียนสลับกันมาที่จะทำหน้าที่อำนวยความสะดวกตั้งแต่การขาย,ไฟแนนซ์ ไปจนถึงการส่งมอบรถ
การตัดสินใจเข้ามาเปิดพื้นที่ขายในห้างครั้งนี้ของค่ายยามาฮ่า เนื่องมาจากผู้บริหารเล็งเห็นว่าปัจจุบันลูกค้าเดินเข้าโชว์รูมน้อยลง ผู้ขายควรจะปรับแผนด้วยการเดินไปหาลูกค้า และพื้นที่ห้างก็ถือเป็นช่องทางที่เหมาะสม เพราะปัจจุบันคนเดินห้างเยอะ ดังนั้นจึงตัดสินใจยกโชว์รูมมาอยู่บนห้างเลย
ไม่เพียงเท่านั้นยามาฮ่ายังต้องการสื่อสารความเป็นพรีเมียมแบรนด์ อยากให้ลูกค้าได้เห็นภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่มิใช่แค่รถแต่ยังมีอุปกรณ์เสื้อผ้า ชุดแต่งต่างๆ
...เรียกว่าขยับปรับตัวกันยกใหญ่สำหรับค่าย 2 ล้อ และแม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่แต่ก็ถือว่าเป็นการเพิ่มช่องทางการขาย เพื่อรับกับพฤติกรรมของลูกค้ามีการปรับเปลี่ยนกันอย่างรวดเร็ว
หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจปีที่ 39 ฉบับที่ 3,534 วันที่ 26 - 28 ธันวาคม พ.ศ. 2562