นายกฯเซ็ง"โอเปอร์เรเตอร์"รัฐ-รัฐวิสาหกิจ

นายกฯไล่"โอเปอร์เรเตอร์"รัฐ-รัฐวิสาหกิจ ถ้าไม่ทุ่มเท-ตั้งใจก็ลาออกไป เผยรัฐบาลมีหน้าที่ผุดนโยบายให้ปฏิบัติ แต่สิ่งที่ตอบกลับมาไม่ได้ตามสิ่งที่คิด ทำให้เสียใจเหมือนกัน  ไม่ปลื้มฉายารัฐบาล

ช่วงเย็นวานนี้(23 ธ.ค.62) ที่ห้องบางกอก คอนเวนชันเซ็นเตอร์ บี 2 ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ปทุมวัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม เป็นประธานมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2562 โดยมีนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ให้การต้อนรับ 

นายกฯ กล่าวถึงการบริการด้านสาธารณูปโภคว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องอธิบายประชาชนถึงการให้บริการคมนาคมขนส่งที่มีหลายระดับ เพื่อให้ประชาชนสามารถเลือกใช้ตามรายได้ของตัวเอง เป็นโอกาสที่ประชาชนจะเลือกใช้บริการ ขึ้นอยู่กับศักยภาพ ถ้าเราไม่อธิบายทุกอย่างจะถูกบิดเบือน ในเรื่องความเท่าเทียมเหลื่อมล้ำตลอดเวลา เพื่อประโยชน์อะไรสร้างความขัดแย้งใช่หรือไม่ ช่วยตนคิดตรงนี้ด้วย ทุกปัญหารู้หมด 

“ผมไม่ได้เก่งเท่าท่าน ทุกคนในห้องนี้ แต่ผมรู้ปัญหา เมื่อรู้แล้วรัฐบาลก็ต้องอาศัยพวกท่านในการขับเคลื่อน เมื่อเอาปัญหามาบอกผมก็ต้องบอกวิธีการแก้ปัญหามาด้วย นายกฯ ก็จะสั่งการได้ถูกต้องและรวดเร็วประหยัดงบประมาณ ต้องตอบคำถามประชาชนให้ได้ นั่นคือพวกเราในวันนี้ นั่นคือรัฐวิสาหกิจ ที่เราต้องการ ตอบสนองประชาชนทุกมิติให้ได้” 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐวิสาหกิจจะต้องเดินไปข้างหน้า และสร้างความเข้าใจให้ประชาชนเข้าใจว่าเราทำเพื่ออะไร รายได้ 5 ล้านล้านบาท ก็มีรายจ่ายถึง 4 ล้านล้านบาท แต่เกิดการจ้างงาน 3 แสนคน อย่าให้เขามองว่าเป็นการผูกขาด เพราะมีคนในวงจรห่วงโซ่หลายแสนคน ทุกอย่างต้องพึ่งพาอาศัยกันและกัน ตนไม่ได้แก้ตัวให้ใคร 
 

"คนในประเทศต้องพึ่งพาอาศัยพวกท่าน รัฐบาลมีหน้าที่ผุดนโยบาย ซึ่งผมก็พูดทุกวัน แต่สิ่งที่ตอบกลับมาไม่ได้ตามสิ่งที่ผมคิด ผมก็เสียใจหลายเรื่องเหมือนกัน เวลาจะพูดอะไรก็แล้วแต่ ทั้งการบริการ การรับฟัง ตอบข้อซักถาม เขาบอกว่าไม่ได้เป็นอย่างที่นายกฯ พูด นั่นแหละเป็นความบกพร่องของผมอีก ที่ทำความเข้าใจกับเขาไม่ได้ เวลาเขาร้องขอเรื่องการบริการต่างๆ คนที่รับสายโทรศัพท์สำคัญที่สุด เขาบอกผมว่าโทรมาตอบว่าไม่รู้ โอนสายไปเรื่อย เดี๋ยวจะพูดในครม.ด้วย ไม่เฉพาะรัฐวิสาหกิจ 

ผมพูดในภาพรวมคนเหล่านี้ สำคัญที่สุดคนที่สัมผัสประชาชน ถ้าคนพวกนี้ไม่ปรับปรุง ทำไปก็เหนื่อยเปล่า โทรไม่รับ หรือรับแล้วก็ส่งต่อ ไปถามคนโน้นคนนี้จนเขาเบื่อที่จะถาม อีกอย่างคือรับแล้วแขวนหูไว้ไปคุยเรื่องล็อตเตอรี่ มันแย่จริงๆ ผมจะตรวจสอบทุกหน่วยงาน ผมจะมีหน่วยงานของผมเช็กทุกหน่วยงาน ที่รับเรื่องต่างๆ ทั้งกทม. เขต สำนักต่างๆ จะถามว่าจะให้บริการอย่างไร 
ผมเห็นใจเขาก็เหนื่อยและเครียด เงินเดือนน้อย ไม่อยากทำ ถ้าเครียดก็ลาออกไป ทำไมจะต้องง้อกันนักหนา ถ้านายไม่ดูแลลูกน้องก็จะเป็นแบบนี้ ผมอยู่กองทัพมา 40 ปี ก็เป็นแบบนี้ เข้มงวดติดตามกำกับดูแล ไม่ใช่นั่งบริหารเซ็นหนังสืออย่างเดียว ต่อจากนี้ผมจะไล่หัวหน้างานทั้งหมดลงไปข้างล่างทั้งหมด ตั้งแต่ปลัดกระทรวง อธิบดีต่างๆ ทั้งหมด ผมทนไม่ไหวที่จะให้ใครมาว่าพวกเราอีก ทั้งๆ ที่คนทำดีเยอะไปหมด มีส่วนน้อยเท่านั้นที่ขาดการกำกับดูแล ผมพูดเสียงดังไปก็เจ็บคอ" นายกฯ ระบุ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เปไปเปมา นานแล้วความไม่เข้าใจ วันนี้ก็มาถามกันว่าการตั้งฉายารัฐบาลเป็นอย่างไรรู้สึกอย่างไร ผมไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้น จะรู้สึกอะไรให้ผมดีใจ เสียใจ จะให้ผมพูดหรอ อยากตั้งก็ตั้งไปเถอะ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ การทำงานในวันนี้ของพวกเรา ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่ไม่มีกำลังใจทำงาน คนดีก็เลิกไม่อยากทำ จะทำไปทำไม ทำไปแล้วก็ตั้งชื่อกันอย่างนี้ 

“ผมควรจะรู้สึกอย่างนี้ไหม ถ้าผมไม่ทุ่มเท ถ้าผมไม่ตั้งใจ ด่าผมมาเลย ด่าตรงๆ หน้านี่แหละ ไม่ใช่เรื่องตลก เอาแล้วเครียดอีกแล้ว ก่อนที่นายกฯ จะถอนหายใจ เห้อ... ไม่รู้จะทำยังไง ขอให้รู้ว่าผมไม่ได้สนุกสนานมากนักหรอก หลายคนอาจเห็นว่าผมสนุกก็เป็นเพราะงาน จะให้ผมไปทำหน้าเป็นมีดอยู่คนเดียวหรือ ต้องสนุกกับเขา สร้างบรรยากาศให้กับเขา ตรงไหนที่มันเครียดผมก็ไปเครียดกับเขา คนเรามันต้องเป็นอย่างนี้ไม่ใช่หรือ 

หลายคนบอกว่าบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ นายกฯ จะมีความสุขได้อย่างไร ตกลงผมทำอะไรไม่ได้เลยหรือชีวิตผม ขอให้ช่วยผมพูดด้วย ผมจริงใจกับทุกท่านเสมอ ไม่เคยไปอะไรกับท่าน ไม่เคยไปเรียกอะไรจากท่านสักอย่าง มีแต่ขอให้ทำงานให้ประเทศชาติ” 

นายกฯ กล่าวด้วยว่า ไม่มีอะไรได้มาเปล่าๆ ความขัดแย้งไม่ได้อะไร แต่ความร่วมมือนั้นได้อะไร คนทั้งประเทศต้องช่วยตนคิด ไม่อย่างนั้นก็เป็นเรื่องสนุกสนานของคนที่ไม่คิดไปข้างหน้า บางคนไม่รู้อะไร หาเรื่องด่าทั้งวัน แต่ทุกอย่างยืนยันไม่มีปัญหา ยังทำได้ ปีเก่าทำอะไรไม่ถูกใจขออโหสิกรรมทั้งชาตินี้และชาติหน้า