นายรณชัย พูนบุญ เจ้าของธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปแบรนด์ “กัปตัน” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงกลยุทธ์ในการขยายตลาด เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับแบรนด์ในปี 2563 ว่า ในช่วงประมาณเดือนมกราคมแบรนด์จะดำเนินการนำผลิตภัณฑ์หมูเส้นเข้าไปวางจำหน่ายที่ท็อปส์ มาร์เก็ต โครงการเซ็นทรัลวิลเลจ ลักชูรี่ เอาท์เล็ต เป็นแห่งแรก หลังจากนั้นก็จะทยอยขยายสาขาในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ท็อปส์มาร์เก็ตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากแบรนด์ถูกวางตำแหน่งให้เป็นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมี่ยม จึงถูกผลักดันให้ไปวางจำหน่ายที่โครงการดังกล่าวก่อน
นอกจากนี้ แบรนด์ยังจะดำเนินการจัดตั้งศูนย์กระจายผลิตภัณฑ์ที่เยาวราช โดยจะดำเนินการร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับผู้ให้บริการจัดส่งสินค้าออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น แกร็บฟู้ด และฟู้ดแพนด้า เป็นต้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่นิยมสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางดังกล่าว โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ประเภทอาหาร ซึ่งแบรนด์มองว่าจะช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถเข้าถึงกลุ่มของผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพ
ขณะที่บนช่องทางออนไลน์ แบรนด์ก็กำลังจะนำผลิตภัณฑ์เข้าไปจำหน่ายผ่านทางเว็บไซต์ลาซาด้า (Lazada) เพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ทุกกลุ่ม จากเดิมที่ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์จะมีวางจำหน่ายที่คิง เพาเวอร์ กรูเมต์ มาร์เก็ต และโกลเด้น เพลส โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ประกอบด้วย กัปตันหมูเส้น, กัปตันคางกุ้ง และกัปตันปลาหิมะ
นายรณชัย กล่าวต่อไปอีกว่า จากกลยุทธ์ในการทำตลาดดังกล่าวของปี 2563 เชื่อว่าจะทำให้แบรนด์มีรายได้เติบโตขึ้นอีกประมาณ 1 เท่าตัวจากปี 2562 ซึ่งแบรนด์มีรายได้อยู่ที่ประมาณเดือนละ 5 แสนบาท หรือ 6 ล้านบาทต่อปี โดยจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์กัปตันหมูเส้นอยู่ที่เรื่องของคุณภาพ โดยจะไม่ใช้หมูแปรรูป แต่จะเน้นคัดสรรหมูสด หมูคุณภาพ เมื่อต้มแล้วเนื้อหมูจะตั้ง ฉีกยังไงก็ยังเป็นเส้น ทอดแล้วดูน่ารับประทาน
“หมูที่แบรนด์ใช้จะต้องเป็นหมูที่มีคุณภาพผ่านการตรวจสอบจากแล็บที่ได้มาตรฐาน นอกจากนี้แบรนด์ยังให้ความสำคัญกับนํ้ามันที่นำมาทอด โดยจะเลือกใช้นํ้ามันใหม่ 100% และมีการเปลี่ยนนํ้ามันทุกวัน ทำให้ได้ความใสสะอาด รวมถึงไม่มีการใส่ผงชูรส ทำให้ทานได้เรื่อย ๆ โดยไม่กระหายนํ้า และมีระบบ QC ด้านความสะอาดอื่นๆ เช่น ใส่ผ้าคลุมผม เป็นระบบปิดป้องกันแมลง เป็นต้น”
นายรณชัย กล่าวต่อไปอีกว่า หลักคิดในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้น อยู่ที่การเป็นผู้ช่างเลือกคัดสรรวัตถุดิบ โดยยอมที่จะจ่ายในราคาที่แพงกว่าในเรื่องของต้นทุน เพื่อให้ผู้บริโภคปลอดภัยในการรับประทาน ซึ่งในความรู้สึกรู้ตัวว่ามีความเชื่อว่า ผู้ที่ค้นหาของดีมีคุณภาพและยินยอมควักกระเป๋าจ่ายยังมีอยู่อีกมาก เพราะฉะนั้นจึงเป็นโอกาสในการที่จะเข้าไปทำตลาด
หน้า 8 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3533 วันที่ 22-25 ธันวาคม 2562