สรรพากรรับประกัน ยื่นภาษีผ่านเน็ต คืนเงินใน 3 วัน

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากรเปิดเผยว่า ปีงบประมาณ 2562 มีผู้ยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในส่วนของการยื่นแบบแสดงรายได้ปี 2561 จำนวน 10.7 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มีผู้ยื่นแบบ 10 ล้านคน ดังนั้นจากการใช้เทคโนโลยีและให้ความรู้ประชาชนมากขึ้นในการยื่นแบบภาษีอย่างถูกต้อง จะทำให้ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม2563 ที่จะถึงนี้ มีผู้ยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงถึง 11 ล้านคนได้ โดยคาดว่า จะยื่นแบบผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์สูงกว่า 80% เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีผู้ยื่นแบบผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เกือบ 80% โดยรับประกันว่า หากข้อมูลครบถ้วน ไม่หลบเลี่ยงการแสดงรายได้ กรมจะคืนภาษีให้ทันทีภายใน 3 วัน ซึ่งหากยื่นแบบผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ก็จะคืนภาษีผ่านพร้อมเพย์ทั้งหมด เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่เสียภาษีถูกต้อง ที่จะได้รับเงินคืนภาษีเร็วขึ้น

“ในปีหน้ากรมสรรพากรจะเน้นเรื่องของความง่ายในการยื่นแบบชำระภาษี เพื่อให้ภาษีมาช่วยในการพัฒนาชาติ โดยจะทำเรื่องดิจิทัลมาใช้ในการช่วยให้ชำระภาษีให้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันจะเปิดเป็นแอพพลิเคชั่น ที่เราร่วมกับสตาร์ทอัพ ทำระบบการชำระภาษี เป็นการพัฒนาการกรอกแบบภาษีที่ง่ายมาก ที่ให้เชื่อมต่อกับกรมสรรพากรได้แล้ว ตรงนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้คนที่เสียภาษี ส่วนคนไม่คุ้นชินกับอิเล็กทรอนิกส์ กรมจะมีทูตภาษีประจำสรรพากรพื้นที่ต่างๆ คอยช่วยเหลือ ให้บริการแก่ผู้ที่จะเสียภาษี”นายเอกนิติ กล่าว

ด้านนางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ รักษาการที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมสรรพากรกล่าวว่า การยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปีภาษี 2562 กำหนดให้ยื่นภายในวันที่ 31 มี.ค.2563 ขณะที่ผู้ที่ยื่นแบบทางอินเทอร์เน็ตกรมจะขยายเวลาออกไปอีก 8 วัน ถึงวันที่ 8 เม.ย. 2563  โดยสัดส่วนการยื่นแบบทางอินเทอร์เน็ตสูงถึง 82% ของผู้ยื่นแบบ ซึ่งกรมได้มีการเตรียมระบบการยื่นแบบออนไลน์ และแอพพลิเคชั่นให้สอดคล้องกับรายการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีต่างๆ สำหรับผู้เสียภาษี ซึ่งระบบจะพร้อมให้ใช้ยื่นแบบออนไลน์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2563

“ในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ ผู้เสียภาษีต้องแสดงข้อมูลเงินได้และค่าลดหย่อนต่างๆ เพื่อให้ได้รับสิทธิการลดหย่อนและเสียภาษีถูกต้องครบถ้วน เราตระหนักถึงความสำคัญ จึงสร้างช่องทางให้ผู้เสียภาษีสามารถตรวจสอบค่าลดหย่อนต่างๆ ผ่านระบบ My Tax Account ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th ซึ่ง My Tax Account เป็นระบบค้นข้อมูลค่าลดหย่อนและสิทธิประโยชน์ทางภาษี มีการเชื่อมโยงข้อมูลในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์กับหน่วยงานเจ้าของข้อมูลต่างๆ และแสดงข้อมูลค่าลดหย่อนทั้ง ข้อมูลเบี้ยประกันสุขภาพ ข้อมูลการบริจาคที่ปรากฏอยู่ในระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) และข้อมูลเงินสะสมเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ซึ่งจะช่วยลดภาระในการเก็บเอกสารหลักฐานและการสแกนเอกสารต่างๆและช่วยให้การยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและการคืนภาษีสะดวกรวดเร็วขึ้น ซึ่งปีที่ผ่านมามีผู้ใช้งานระบบนี้กว่า 8 แสนราย”นางสมหมาย กล่าว

สำหรับในช่วงระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-30 ก.ย.2562 กรมสรรพากรได้อนุมัติคืนภาษีรวมกว่า 34 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้เป็นการคืนผ่านพร้อมเพย์และ e-Money จำนวนกว่า 29 ล้านบาท หรือคิดเป็น 86.86% ของผู้ขอคืนภาษีทั้งหมด