สรรพากรตั้งกองไล่ล่า ภาษีอี-คอมเมิร์ซ

19 ธ.ค. 2562 | 04:38 น.

สรรพากร ตั้งกองสำรวจธุรกิจนอกระบบ หวังดึงผู้ค้าออนไลน์เข้าระบบภาษีถูกต้อง คาดใช้ภาษี e-Business ได้ปี 64 หลังนายกสั่งเร่งออกให้เร็ว ตั้งเป้าเก็บภาษีได้ปีแรก 4,000 ล้านบาท

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดี กรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมฯได้ตั้งกองสำรวจธุรกิจนอกระบบ(กสน.)ขึ้นมาใหม่ เพื่อเข้าไปสำรวจคนที่อยู่นอกระบบ ตรวจสอบดูว่า มีผู้ค้าออนไลน์ที่ไหนบ้าง ในเฟสบุ๊ค ลาซาด้า ช๊อปปี้ และมีการเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ หากพบว่า ไม่ได้ยื่นแบบแสดงรายได้ส่วนนี้ ก็จะเรียกมาพูดคุย และทำให้ถูกต้อง ซึ่งจุดประสงค์หลักไม่ได้ต้องการรีดภาษีจากกลุ่มคนพวกนี้ แต่ต้องการให้เข้าระบบอย่างถูกต้องมากกว่า เพราะไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มหรือ โชเชียล มีเดีย ก็สามารถใช้เทคโนโลยีในการเข้าไปจัดเก็บ 

สรรพากรตั้งกองไล่ล่า ภาษีอี-คอมเมิร์ซ

"ผู้ค้าขายออนไลนไม่ต้องกลัว อยากให้เป็นคนที่ยิ้มเข้ามาหาสรรพากร เราพร้อมจะทำให้ถูกต้อง ลองคิดดูว่า ญาติเราเป็นคนดี เสียภาษีอย่างถูกต้อง แต่เราหลบภาษี โกงภาษี แล้วญาติเราเจ๊ง เราคงไม่อยากให้เกิดขึ้น คนไทยดก้เหมือนญาติพี่น้องกัน หน้าที่สรรพากรต้องไม่เปิดโอกาสคนที่หลบภาษีทำได้ดีกว่าคนอื่น ไม่เช่นนั้นประเทศไทยจะอยู่ไม่ได้" นายเอกนิติกล่าว  

ส่วนความคืบหน้าการจัดทำพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร(ฉบับที่ ...) พ.ศ. … เพื่อรองรับการจัดเก็บภาษีจากผู้ประกอบการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์(e-Business)จากผู้ให้บริการในต่างประเทศนายเอกนิติกล่าวว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญและเร่งให้กรมสรรพากรจัดเก็บภาษี e-Business ให้ได้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกคนในประเทศ โดยเฉพาะผู้ประกอบการในประเทศที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ขณะที่ผู้ประกอบการต่างประเทศที่ขายสินค้าและบริการผ่านระบบออนไลน์โดยไม่ได้มีบริษัทในไทย ซึ่งเบื้องต้น คาดว่ากฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ทันเดือนก.ย.2563 เพื่อมีจัดเก็บภาษีในปีงบประมาณ 2564 ตั้งเป้าเก็บภาษีปีแรกให้ได้ 4,000 ล้านบาท 

สรรพากรตั้งกองไล่ล่า ภาษีอี-คอมเมิร์ซ

นอกจากนั้น กรมสรรพากรจะแก้ไขกฎหมายกรม มาตรา 10 ให้สามารถนำข้อมูลของบริษัทที่ยื่นเสียภาษีในไทยนำไปแลกเปลี่ยนข้อมูลให้กับกรมสรรพากรในต่างประเทศได้ด้วย เพื่อเป็นการเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน เป็นการป้องกันการหลบเลี่ยงภาษี e-Business ของบริษัทต่างชาติต่างๆ ด้วย ขณะที่การลงโทษผู้ประกอบการต่างชาติที่ไม่เข้าระบบการเสียภาษี e-Business หากมีการทำธุรกรรมซื้อขายสินค้าในไทยนั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสมว่าควรเป็นอย่างไร 

ส่วนการจัดเก็บภาษีกับผู้ขายสินค้าออนไลน์ในประเทศนั้น นายเอกนิติ กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2562 กรมได้ดึงผู้ค้าออนไลน์เข้าสู่ระบบภาษี ด้วยการให้มายื่นแสดงรายได้กับกรมได้แล้วถึง 100,000 ราย และมีการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดากับผู้ค้าได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งปีงบประมาณ 2563 กรมตั้งเป้าจะดึงผู้ค้าออนไลน์เข้าสู่ระบบภาษีให้เพิ่มขึ้นเป็น 170,000 ราย โดยเชื่อว่าจะสามารถจัดเก็บภาษีจากผู้ค้าออนไลน์ได้มากกว่า 1,000 ล้านบาทแน่นอน