‘จุรินทร์’ ดับไฟร้อนสลายม็อบประมง

เวลา 21:00 น. วันที่ 18 ธันวาคม 2562 ที่รัฐสภา นายจุรินทร์  ลักษณะวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายประมงแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2562  เผยว่า ที่ประชุมได้เริ่มประชุม ตั้งแต่เวลา 18:00 น. ถึง 21:00 น.  นั้นได้นำข้อเรียกร้อง 11 ข้อจากชาวประมงมาพิจารณา เริ่มตั้งแต่การการแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ จำนวน 10 ราย ในปี 2561 และอยู่ระหว่างการพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร 5 ราย เพื่อแทนนายมงคล สุขเจริญคณา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้ลาออกไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 2562

สำหรับการแก้ไขปัญหาการทำประมง IUU โดยรัฐบาลไทยได้ดำเนินการในการแก้ไขปัญหาการทำประมง IUU ในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และวางรากฐานระบบการป้องกันการทำประมง IUU ไว้โดยสมบูรณ์แล้ว โดยหลังจากการปลดใบเหลืองจากสหภาพยุโรป ไทยยังคงเร่งรัดปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และทำงานร่วมกับสหภาพยุโรปและนานาประเทศอย่างใกล้ชิด และดำเนินนโยบายการปลอดสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ IUU เข้าสู่ประเทศไทย (IUU Free Thailand) และที่ประชุมยังมอบหมายให้เร่งรัดจัดการเรื่องการทำลายเรือ UTHAIWAN ของบริษัท PK Shipping ที่เดินทางเข้ามาในน่านน้ำไทย ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินคดีเกี่ยวกับ IUU และนำมารายงานในการประชุมครั้งหน้า

ส่วนการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาครัฐนั้น ในปี 2563 จะดำเนินโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมงพาณิชย์และประมงพื้นบ้าน วงเงิน 10,300 ล้านบาท และโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรทะเลที่ยั่งยืนระยะที่ 2 เพื่อนำเรือประมงที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐและ/หรือมีความประสงค์จะเลิกอาชีพประมงออกนอกระบบ จำนวน 2,768 ลำ วงเงิน 7,144 ล้านบาท  ซึ่งอยู่ระหว่างการเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบ

ด้านแผนปฏิบัติแห่งชาติเพื่อการอนุรักษ์และการบริหารจัดการฉลามของประเทศไทย (NPOA - Sharks) ที่ครอบคลุมการศึกษา วิจัย ประเมินสถานภาพ พัฒนาองค์ความรู้ กำหนดมาตรการอนุรักษ์ฉลาม และพัฒนาเครือข่ายการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาและดำเนินการเกี่ยวกับฉลาม กำหนดมาตรการอนุรักษ์ควบคุมการทำประมง และการค้าฉลามอย่างยั่งยืน คงไว้ซึ่งความหลากหลายทางชีวภาพและปกป้องแหล่งที่อยู่อาศัยของฉลาม

สำหรับเรื่องเพื่อพิจารณา คือ แผนการบริหารจัดการประมงทะเลของประเทศไทย พ.ศ. 2563 - 2567 ที่ประชุมมีมติ เห็นชอบแผนการบริหารจัดการประมงทะเลของประเทศไทย (Fisheries Management Plan: FMP) พ.ศ. 2563-2567 ประกอบด้วย 14 เป้าหมาย 68 มาตรการ โดยมีกรมประมงเป็นหน่วยงานดำเนินงานหลัก เพื่อใช้ในการบริการจัดการการทำประมงทะเลทั้งหมด รวมทั้งเรือประมงพื้นบ้านและเรือประมงพาณิชย์ และการทำประมงทะเลโดยเรือประมงไทยที่ทำในน่านน้ำและเขตเศรษฐกิจจำเพาะของรัฐชายฝั่งอื่นและในทะเลหลวง และในน่านน้ำไทยมีบริเวณที่เป็นพื้นที่ทำการประมงอยู่ในฝั่งตะวันออก (อ่าวไทย) และฝั่งตะวันตก (ทะเลอันดามัน) เพื่อบริหารจัดการการประมงทะเลอย่างยั่งยืน ก่อให้เกิดความมั่งคั่งของชาติ ความเป็นอยู่ที่ดี และสื่งแวดล้อมที่ดี โดยนายจุรินทร์ ได้ สั่งการ ในการทำแผนหลังจากนี้ ขอให้ฟังความเห็นจากทุกฝ่าย ทั้งราชการ เอกชน และเกษตรกร และขอให้พิจารณาจัดทำแผนการบริการจัดการการทำประมงน้ำจืดด้วย

ทางด้านการประเมินผลผลิตสูงสุดที่ยั่งยืน (MSY) และการกำหนดปริมาณสัตว์น้ำทั้งหมดที่อนุญาตให้ทำการประมง (TAC) ปี 2563 ที่ประชุมมี มติเห็นชอบการกำหนดปริมาณสัตว์น้ำทั้งหมดที่อนุญาตให้ทำประมง (Total Allowable Catch: TAC) ที่จะถูกนำไปจัดสรรให้กับเรือประมงทุกลำ สำหรับปีการประมง 2563-2564 โดยกำหนดที่ร้อยละ 95 ของค่าผลผลิตสูงสุดที่ยั่งยืน(MSY) ดังนี้กลุ่มสัตว์น้ำ ค่า MSY (ตัน) ค่า TAC (ตัน)

โดยแบ่งเป็นอ่าวไทย สัตว์น้ำหน้าดิน 790,985 751,436   ตัน ปลาผิวน้ำ 251,547 238,970 ปลากะตัก 202,077 191,973  ส่วนทะเลอันดามัน  สัตว์น้ำหน้าดิน 230,115 218,609 ตัน ปลาผิวน้ำ 118,344 112,427  ตัน ปลากะตัก 33,007 31,357 ตัน

 

ส่วนแนวทางการออกไปอนุญาตทำการประมงพาณิชย์และหลักเกณฑ์การจัดสรรใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ มีมติ เห็นชอบแนวทางการออกใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์และหลักเกณฑ์การจัดสรรใบอนุญาตทำประมงพาณิชย์ รอบปีทำการประมง 2563-2564 ซึ่งสอดคล้องกับความสามารถในการทำประมงและปริมาณสูงสุดของสัตว์น้ำ (MSY) ที่จะทำการประมงในน่านน้ำไทย และคำนึงถึงเครื่องมือและประสิทธิภาพการจับสัตว์น้ำและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม  โดยจะแนวทางการจัดสรรปริมาณสัตว์น้ำทั้งหมดที่อนุญาตให้ทำประมง หรือ TAC จะจัดสรรให้เรือประมงพื้นบ้านก่อนจะจัดสรรให้กับเรือประมงพาณิชย์

นอกจากนั้น เรื่องคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายที่ประชุมมีมติ เห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย โยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานอนุกรรมการ เพื่อเสนอแนะ แนวทางและนโยบาย รวมทั้งกำกับ ดูแล และติดตามการดำเนินนโยบายแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายมีความต่อเนื่องอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเพื่ออนุรักษ์และบริหารจัดการทรัพยากรประมงทะเลและการทำประมงให้เกิดความยั่งยืน รวมถึงป้องกันไม่ให้สัตว์น้ำและสินค้าประมงที่มาจากการทำประมงผิดกฎหมายเข้าสู่ตลาดในประเทศและสายการผลิตเพื่อส่งออก

คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการใช้มาตรการป้องกันการทำประมงผิดกฎหมาย มีมติ เห็นชอบคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการใช้มาตรการป้องกันการทำประมงผิดกฎหมาย โดยมีที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานอนุกรรมการ ทำหน้าที่ศึกษา วิเคราะห์ และประเมินผลกระทบจากการใช้มาตรการของรัฐในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย และกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาฯจนได้ข้อยุติ

สอดคล้องกับนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กล่าวบนเวทีประมงว่าที่ประชุมได้สนองตอบข้อเรียกร้องของชาวประมงตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯได้ตกลงร่วมกันกับแกนนำชาวประมงทุกข้อ โดยมีบางส่วนที่สามารถดำเนินการได้ทันที ได้แก่การยกเลิก Fleet card การยกเลิกคำสั่งกรมเรื่อง vms รุ่น 2 พร้อมจะเจราจาลดค่าบริการในปีหน้าและไม่มีนโยบายการติด VMS กับเรือต่ำกว่า 30 ตันกรอส การเพิ่มวันทำการประมงปีนี้และปีหน้า มีบางส่วนที่จะต้องนำเข้า ครม.เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนโดยเร็ว ได้แก่สินเชื่อเสริมสภาพคล่อง 10,300 ล้านบาท การนำเรือออกนอกระบบระยะที่2วงเงิน 7,100 ล้านบาท กรณีแก้ปัญหาแรงงาน โดยใช้ ม.83

ทางคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนงานต่างด้าวซึ่งรมต.กระทรวงแรงงาน จะจัดประชุมเห็นชอบในวันที่ 25 ธ.ค.นี้เรื่องกฏหมายนั้นเราเคารพในข้อตกลงระหว่างประเทศและมาตรฐานไอยูยูแต่ถ้าบทลงโทษที่ผิดหลักมนุษยธรรมจะต้องแก้ไข โดยตนได้รับมอบหมายจากนายเฉลิมชัย ศรีออ่อน รมว.เกษตร ให้ไปเจรจากับ EU โดยตรงที่ กรุงบรัสเซล พร้อมตัวแทนชาวประมงในเดือนหน้า

ส่วนเรื่องสัตว์น้ำนำเข้านั้นกระทรวงพาณิชย์จะเข้ามาตรวจสอบอย่างเข้มงวดร่วมกับมาตรการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เรื่องใบอนุญาตและการตรวจสุขภาพพืชสัตว์ รวมทั้งจะตรวจตามห้องเย็นต่างๆ อย่างเต็มที่ หลังจากเสียงไชโยดีใจอันกึกก้องของผู้ชุมนุม นายอลงกรณ์ก็ได้อวยพรเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ โดยแกนนำผู้ชุมนุมได้กล่าวขอบคุณรัฐบาล รองนายกฯ จุรินทร์และรัฐมนตรีเฉลิมชัยที่ใส่ใจและช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวประมงตลอด 4-5ปี ที่ผ่านมา