'3เสือ' แห่งธนชาต รวย 'บันเทิง-ศุภเดช-สมเจตน์'

18 ธ.ค. 2562 | 11:00 น.

คอลัมน์ข่าวห้ามเขียน ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3532 หน้า 20 ระหว่างวันที่ 19-21 ธ.ค.62 โดย... พรานบุญ

 

'3เสือ' แห่งธนชาต รวย!

'บันเทิง-ศุภเดช-สมเจตน์'

 

     ป่าใหญ่ในตลาดหุ้นตลาดทุนที่ร้อนระอุ ไปด้วยเปลวแสงแห่งการทุบตลาดหุ้น หาเงินเข้ากระเป๋าของฝรั่งหัวแดง-หัวขาว ป้องปากซุบซิบกันลั่นไปทั้งกระดานว่า ขณะที่นักลงทุนขาใหญ่ แมลงเม่า ตายสนิท กลับมีคนรวยสตางค์จนนับกันไม่หวาดหวั่น แบบมีการจัดการ

     คนที่รวยสตางค์ ไม่ใช่เจ้าสัวที่ไหน เขาคือ “3 เสือแห่งธนชาต” “เสี่ยจูจ๋าย -บันเทิง ตันติวิท” ประธานกรรมการ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) “คุณลุง-ศุภเดชพูนพิพัฒน์” ประธานกรรมการบริหาร “ป๋าสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ” กรรมการผู้จัดการใหญ่

     เสียงดังสนั่นลั่น “สกายวอล์กมาบุญครอง-แยกจุฬาฯ” ว่าสิ้นปีกุนเข้าสู่ปีชวด “บันเทิง-ศุภเดช-สมเจตน์” จะมีการกำเงินสดในมือไม่น้อยกว่า 3,500 ล้านบาท จากการควบรวมกิจการกันของธนาคารธนชาตกับธนาคารทหารไทย

     และรับเงินสดไปเต็มๆจากการที่คณะกรรมการบริษัท ทุนธนชาต มีมติสดๆร้อนๆเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2562 ที่อนุมัติจ่ายเงินปันผลพิเศษระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญและผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ ในอัตรา 4 บาทต่อหุ้น จากกำไรสะสม

     เงินปันผลทั้งหมดราว 5,000 ล้านบาท ถูกกำหนดให้จ่ายผู้ถือหุ้นที่ถือไว้ในวันที่ 30 ธันวาคม 2562 โดยกำหนดจ่ายเงินปันผล วันที่ 16 มกราคม 2563...อะร้าแอร่ม!

     ชะนีน้อยที่ลอยคออยู่ในตลาดหุ้นถามดังๆว่า แล้วมาเกี่ยวอะไรกับ “บันเทิง-ศุภเดช-สมเจตน์” ละพ่อพราน

     พี่น้องเอ๋ยพรานจะเล่าให้ฟัง อันว่า...บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) ที่เป็นบริษัทแม่ของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนชาต ซึ่งแบ่งการทำธุรกิจออกเป็น 2 กลุ่ม

     ธุรกิจทางการเงิน ประกอบด้วย ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจประกัน ธุรกิจให้เช่าซื้อ และธุรกิจลีสซิ่ง

     ธุรกิจสนับสนุน ประกอบด้วย ธุรกิจโบรกเกอร์ ธุรกิจบริการ และธุรกิจการพัฒนาฝึกอบรม

     ทุนธนชาต ยังได้กระจายการลงทุนไปยังธุรกิจอื่นนอกเหนือจากการเงิน เช่น บริษัท เอ็ม บี เคฯ หรือ MBK ที่ถืออยู่เกือบ 20% ซึ่ง MBK ดำเนินธุรกิจที่หลากหลาย ตั้งแต่ ศูนย์การค้า, โรงแรม, อาหาร, การเงิน, อสังหาริมทรัพย์

     ที่น่าสนใจ MBK ยังเข้าไปถือหุ้นใน บริษัทสยามพิวรรธน์ฯ ที่เป็นเจ้าของศูนย์การค้าชื่อดังอย่าง ไอคอนสยาม, สยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ตกประมาณ 48%

     ไตรมาส 3 ของปีนี้ทุนธนชาต กลุ่มการเงินชั้นนำของไทยมาหลายทศวรรษ โดดเด่นทางด้านสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว ได้เข้าลงทุนในธนาคารทหารไทย (TMB) ผ่านกระบวนการควบรวมกิจการกัน เพื่อเป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมีสินทรัพย์รวม 2 ล้านล้านบาท สามารถให้บริการลูกค้ามากกว่า 10 ล้านราย

 

     ทุนธนชาตจะได้รับประโยชน์และส่วนแบ่งจากการเป็น หนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ ในสัดส่วน 20.4% หลังการรวมกิจการที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีศักยภาพในการเติบโตและทำกำไร

     การปรับโครงสร้างธุรกิจด้วยการควบรวมกิจการนั้น ได้มีการขายหุ้นสามัญ ธนาคารธนชาต (TBANK) และเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน TMB ทำให้มีเงินสดคงเหลือจากรายการนี้ 14,000 ล้านบาท

     ทุนธนชาตได้นำมาซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน 6,000 ล้านบาท เพิ่มเติมจากวงเงินเดิม 5,000 ล้านบาท จำนวนหุ้นที่ซื้อคืนไม่เกิน 97.04 ล้านหุ้นที่ราคาหุ้นละ 54.61 บาทต่อหุ้น เหลือเงินอีก 5,000 ล้านบาท จึงนำมาจ่ายปันผลพิเศษ

     เมื่อปันผลพิเศษ ผู้ได้เงินจึงเป็นผู้ถือหุ้น รายย่อย 18,344 รายที่ถืออยู่ 614,874,572 หุ้น ถ้าจ่ายหุ้นละ 4 บาท ตกประมาณ 2,456 ล้านบาท

     เงินที่เหลือจะถูกจัดไปยังผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 รายแรก ถือหุ้นกันอยู่ 546,820,181 หุ้น คิดเป็น 46.932% เม็ดเงินปันผลระหว่างกาลจะตก 2,187 ล้านบาท

     ใครได้บ้างละ 1.บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ถือ 186,310,807 หุ้น คิดเป็น 15.99%

     2. บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ถือ 129,914,400 หุ้น คิด         

     3. ATE STREET EUROPE LIMITED ถือ 72,975,927 หุ้น คิดเป็น 6.26%

     4. C.B.TRUST LIMITED-NORGES BANK ถือ 33,863,800 หุ้น คิดเป็น 2.90%

     5. UTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED ถือ 29,115,300 หุ้น คิดเป็น 2.49%

     6. NY MELLON NOMINEES LIMITED ถือ 26,042,574 หุ้น หรือ 2.235%

 

     7. บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) ถือ 19,467,000 หุ้น คิดเป็น 1.67%

     8. SE ASIA (TYPE B) NOMINEES LLC ถือ 18,685,417 หุ้น หรือ 1.604%

     9. STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY ถือ 15,300,100 หุ้น คิดเป็น 1.313%

     10. NORTRUST NOMINEES LTD-CL AC ถือ 15,144,856 หุ้น คิดเป็น 1.30%

     ดูรายละเอียดแล้วไม่มี 3 เสือธนชาตรับเงินโดยตรง แต่ในวงการนั้นรู้กันว่า “เสี่ยจูจ๋าย” นั้น ไม่มีชื่อในการถือหุ้นมายาวนาน เช่นเดียวกับขุนพลมือขวามือซ้าย “ศุภเดช-สมเจตน์” แต่รับรู้กันว่า “ธนชาต” คือ 3 คนนี้ และ 3 คนนี้ คือ “ธนชาต”

     แต่หากลงลึกไปจะพบว่า อติพงษ์ ตันติวิท ลูกชาย ถือหุ้น TCAP ลำดับที่ 16 จำนวน 11.2 ล้านหุ้น มูลค่า 613.2 ล้านบาท

     อตินุช ตันติวิท ลูกสาวคนเดียวของบันเทิง ถือหุ้นTCAP ลำดับที่ 17 จำนวน 10.65 ล้านหุ้น มูลค่า 504.2 ล้านบาท ถือหุ้น MBK ลำดับที่ 16 จำนวน 19.33 ล้านหุ้น มูลค่า 409.4 ล้านบาท

     อติพล ตันติวิท ลูกชาย ถือหุ้น TCAP ลำดับที่ 20 จำนวน 9,132,200 หุ้น คิดเป็น 502.3 ล้านบาท

     คนอื่นอาจจมในหุ้นที่ทิ้งดิ่ง แต่ 3 เสือธนชาต “ตันติวิท-พูนพิพัฒน์-หมู่ศิริเลิศ” รับรองว่ารวยเงินสด