นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลัง ได้สั่งการให้ธนาคารกรุงไทยเพิ่มระบบในเว็บไซต์ชิมช้อปใช้.com ให้ประชาชนที่ใช้จ่ายจ่ายเงินผ่าน g-Wallet กระเป๋า 2 ในโครงการชิมช้อปใช้ เข้าไปตรวจสอบหมายเลขประจำตัวที่ตรงกับรายชื่อของตนเอง เพื่อใช้ในการรับสิทธิ์หากมีการจับรางวัลออกมาเป็นเลขดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นมีจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์จับรางวัลจำนวน 7 ล้านสิทธ์ จากจำนวนผู้ใช้จ่ายเงินดังกล่าวแล้ว 393,000 ราย โดยประชาชนสามารถเข้าเว็บไซต์และกรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชนในการตรวจสอบดังกล่าวได้เลย
“1 คน จะมีสิทธิ์ในการได้รับหมายเลขประจำตัวหลายหมายเลข เพราะใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 2 เกิน 1,000 บาท ซึ่งทุกๆ 1,000 บาท จะได้ 1 สิทธิ์ ดังนั้นคนที่ใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 2 มากเท่าไร ก็จะยิ่งมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลมากกว่าคนอื่น ซึ่งปัจจุบันมีคนเติมเงินในกระเป๋า 2 แล้ว 482,000 ราย ใช้จ่ายไปแล้ว 393,000 ราย ซึ่งในจำนวนนี้คิดเป็นวงเงิน 13,151 ล้านบาท”นายลวรณ กล่าว
ขณะที่วิธีการจับรางวัลนั้น สศค.ยืนยันมีความโปร่งใส เพราะมีการควบคุมและใช้ระบบการจับรางวัลเช่นเดียวกับของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่มีมาตรฐานอย่างแน่นอน โดยจะจับรางวัลในครั้งแรกในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ ที่กระทรวงการคลัง ซึ่งมีสิทธิ์ลุ้นรับของสมนาคุณต่าง ๆ ประกอบด้วย รถกระบะ Toyota Hilux Revo 1 คัน รถจักรยานยนต์ Honda New PCX150 4 คัน โทรทัศน์ดิจิทัล Samsung TV55 8 เครื่อง และทองคำ 156 แท่ง รวมของสมนาคุณทั้งสิ้น 169 รายการ
นอกจากนี้ ยังสามารถลุ้นรับของสมนาคุณได้อีก 5 ครั้ง คือ ในวันที่ 3, 10, 17 และ 24 ม.ค. 2563 และวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 ด้วย ซึ่งผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการทุก ๆ 1 ใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่มีมูลค่าการชำระเงิน 100 บาทขึ้นไป จะได้รับ 1 สิทธิ์ ในการลุ้นรับทองคำกว่า 100 รายการด้วย
นายลวรณ กล่าวว่า การประสบความสำเร็จของโครงการนี้ สะท้อนได้จากการใช้จ่ายเงินผ่าน g-Wallet กระเป๋า 2 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้ใช้จ่ายมากกว่ากระเป๋า 1 ซึ่งทุกอย่างเป็นข้อเท็จจริงที่สามารถพิสูจน์ได้ ฉะนั้นจึงมั่นใจว่าเป็นโครงการที่โปร่งใสแน่นอน
ขณะเดียวกันยังเชื่อว่าการลุ้นรับของสมนาคุณให้กับผู้ใช้จ่ายเงินผ่าน g-Wallet กระเป๋า 2 นั้นจะทำให้เกิดการจูงใจให้คนใช้จ่ายเพิ่มผ่านมากขึ้น จากภาพรวมการใช้จ่ายของประชาชนตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.-17ธ.ค.2562 มีผู้ใช้สิทธิ์รวม 3 เฟสจำนวน 11,794,825 ราย มีการใช้จ่ายรวมประมาณ 24,788 ล้านบาท โดยเป็นการใช้จ่ายผ่าน g-Wallet กระเป๋า 1 ประมาณ 11,637 ล้านบาท และ g-Wallet กระเป๋า 2 ประมาณ 13,151 ล้านบาท จึงเห็นได้ว่าการใช้จ่ายผ่าน g-Wallet กระเป๋า 2 ที่เป็นการเติมเงินของประชาชนเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ส่วนการจ่ายเงินคืน (cash back) จากการใช้จ่ายผ่าน g-Wallet กระเป๋า 2 นั้น กระทรวงการคลังได้มีการจ่ายเงินคืนครั้งแรกแล้ว เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2562 จำนวน 153,579 ราย รวมเป็นเงินประมาณ 384 ล้านบาท
ขณะที่นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันว่า การดำเนินโครงการชิมช้อปใช้ของรัฐบาล ไม่มีปัญหาการทุจริต หรือเรื่องความโปร่งใสแน่นอน เพราะมีระบบการตรวจสอบที่ชัดเจน โดยกระทรวงการคลังมีคณะกรรมการดูแลเรื่องดังกล่าวอยู่ ซึ่งเชื่อว่าสิ่งที่ฝ่ายค้านให้ข้อมูลนั้น เป็นเพียงช่วงของการดำเนินโครงการในช่วงแรกเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาก็แสดงให้เห็นว่าสามารถเดินหน้าโครงการได้อย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นจึงไม่กังวลว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายถึงเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด