ปิดดีล FTA ไทย-ตุรกี ลุย CLMV เพิ่มยอดส่งออกปี 63

18 ธ.ค. 2562 | 05:37 น.

“จุรินทร์”ลั่นปิดดีลเอฟทีเอไทย-ตุรกีปีหน้า ดันส่งออกสินค้าเกษตรไทยบุกแดนไก่งวง พร้อมใช้เป็นประตูสู่ตะวันออกกลาง-ยุโรป เตรียมรุกหนักเจาะตลาด CLMV รายเมือง ดันยอดส่งออกเป็นบวก

ในการเสวนา "โฉมหน้าประเทศไทย 2020" งานดินเนอร์ ทอล์ก ของเครือเนชั่น ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน (วันที่ 17 ธ.ค.2562)

นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ในส่วนของแผนงานเร่งรัดและผลักดันการส่งออกของไทยให้กลับมาขยายตัวเป็นบวกในปี 2563  นอกจากจะนำภาคเอกชนไปบุกเจาะตลาดต่างประเทศรวม 16 ทริปใน 18 ประเทศแล้ว กระทรวงพาณิชย์จะเร่งรัดการทำความตกลงการค้าเสรี(FTA)ที่ยังค้างท่ออยู่กับประเทศตุรกี โดยตั้งเป้าภายในปี 2563 การเจรจาจะต้องแล้วเสร็จ และได้ข้อสรุป

ปิดดีล FTA ไทย-ตุรกี ลุย CLMV เพิ่มยอดส่งออกปี 63

“ทำไมต้องเร่งจบตุรกี เพราะวันนี้ภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยยังสูงอยู่ เช่น ข้าวภาษีนำเข้า 45% แป้งมัน 8-9%  แต่ถ้าเราทำ FTA จบภาษีข้าวเป็นศูนย์ ภาษีแป้งมันเป็นศูนย์ เราจะส่งสินค้าเกษตรไปขายเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันที่ตุรกีได้อีกมาก และเพื่อเป็นประตูสู่ตะวันออกกลาง และประตูสู่ยุโรป อันนี้คือรูปธรรมที่ทำไมต้องเร่งรัดเอฟทีเอไทย-ตุรกี”

จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ ระบุ ตุรกีเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 4 ของไทยในกลุ่มภูมิภาคตะวันออกกลาง การค้าระหว่างไทยกับตุรกีในระยะเวลา 5 ปี ที่ผ่านมา (2557 – 2561) มีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 1,378 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ามาโดยตลอด ในปี 2561 การค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 1,427 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ สินค้าที่ไทยมีศักยภาพในตุรกี ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สินค้าเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เส้นใยประดิษฐ์ ยางพารา และผลิตภัณฑ์ยาง สำหรับสาขาที่ไทยมีศักยภาพเข้าไปลงทุน ได้แก่ ธุรกิจท่องเที่ยว ร้านอาหาร โรงแรม สปา ธุรกิจเกี่ยวกับการจัดประชุมและนิทรรศการ อุตสาหกรรมประมงและเกษตรแปรรูป รวมทั้งการผลิตอาหารฮาลาล

 

นอกจากนี้ที่จะทำควบคู่กันไปคือ การผลักดันการค้าชายแดน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ต้องทำ ซึ่งในปีนี้ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอุปสรรคการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย และรวมทั้งไทย-เมียนมาที่แม่สอด ซึ่งได้ขับเคลื่อนร่วมกับภาคเอกชน จนสะพานแม่สอดแห่งที่ 2 เปิดได้แล้วเมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา ช่วยให้สินค้าที่จะไปเมียนมาไหลคล่องตัวขึ้นแทนที่รถจะติดเป็นกิโลเมตร ทำให้สินค้าข้ามแดนไป-มาชะงักงัน รวมถึงได้เร่งแก้ไขปัญหาการค้าชายแดนไทย-ลาวที่มุกดาหาร รวมถึงในหลายพื้นที่ให้มีผลปรากฏเป็นรูปธรรม

ปิดดีล FTA ไทย-ตุรกี ลุย CLMV เพิ่มยอดส่งออกปี 63

“เรื่องเล็กๆ เช่นการนำเงินบาทออกไปนอกประเทศเกิน 5 แสนบาทไม่ได้ แทนที่เงินจะสะพัด เราก็จะไปช่วยแก้ให้ พูดกับฝ่ายความมั่นคง เช่น ที่กาญจนบุรีไป ตอนนี้ได้ถึง 2 ล้านบาทแล้ว ภายในเวลาอันรวดเร็วช่วยให้เงินสะพัดขึ้น การส่งออกตัวเลขก็ดีขึ้น ถัดจากนี้ไปปีหน้าผมจะไปแก้ปัญหาที่กัมพูชาที่สระแก้วและต่อไปจะลงลึกในการที่จะดำเนินการเจาะตลาดรายเมืองในส่วนของตลาด CLMV ซึ่งเป็นตลาดใกล้บ้านเรา เพื่อทำให้ตัวเลขการค้าชายแดนขยับตัวขึ้นให้เร็วที่สุด เพราะแค่สินค้าข้ามแดนตัวเลขก็ขึ้น ไม่ต้องขึ้นเครื่องบิน ไม่ต้องลงเรือ ไม่ต้องรอ 5 วัน 10 วัน 20 วัน”

ปิดดีล FTA ไทย-ตุรกี ลุย CLMV เพิ่มยอดส่งออกปี 63

ขณะที่เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้คุยกับหอการค้าจังหวัดนครพนม ในการบุกตลาดเวียดนามซึ่งเป็นตลาดใหญ่เป็นการค้าข้ามแดน จากเวียดนามเป็นตลาดใหญ่ใน CLMV เราควรจะไปบุก เที่ยวนี้จะจัดโรดโชว์เอาสินค้าระดับชาติและเปิดโอกาสให้ท้องถิ่นเอาสินค้าท้องถิ่นจากประเทศไทยจากภาคอีสานในการไปบุกตลาดเวียดนามและไม่ใช่ไปแบบภาพรวมไปเจาะทั้งฮานอย ไปทั้งโฮจิมินห์ และไปเจาะที่ดานัง ส่วนกัมพูชาจะไปเจาะพนมเปญและเมืองอื่น เหล่านี้ เป็นแผนงานที่จะทำสำหรับ CLMV เพราะเงินเข้าเร็วที่สุดศักยภาพทางเศรษฐกิจก็ดีอยู่ในปัจจุบันแม้ว่าประเทศยักษ์ใหญ่หลายประเทศชะลอตัวแต่ยังโตได้เนื่องจาก ฐานเล็ก และเงินมาก