เทรนด์สื่อปี 63 ทีวีร่วง-ออนไลน์รุ่ง
MI คาดเม็ดเงินโฆษณาปี 62 เติบโตเพียง 0.13% ส่วนภาพรวมสื่อปี 63 ลดใช้สื่อทีวีเหลือ 46% ส่งผลช่องทีวีปิดตัวเพิ่ม แต่สื่อออนไลน์- Out of Home ยังรุ่ง
นายภวัต เรืองเดชวรชัย ผู้อำนวยการธุรกิจ-สายงานการวางแผน และกลยุทธ์สื่อโฆษณา บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จํากัด หรือ MI และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มีเดีย อินไซต์ จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า คาดว่าในปีนี้การใช้เม็ดเงินโฆษณาจะเติบโตขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนประมาณ 0.13% หรือมีมูลค่า 8.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งการเติบโตดังกล่าวมาจากอานิสงส์ของตลาดรถยนต์ ที่แข่งขันโปรโมชันกันอย่างดุเดือด รวมถึงตลาดอี-คอมเมิร์ซหรือ Marketplace ที่จัดโปรโมชันต่อเนื่อง เช่น Shopee 12.12 , Lazada เป็นต้น
“หากดูภาพรวมของตลาดเกือบทุกกลุ่มสินค้าในปีนี้ทั้งปีอยู่ในช่วงซึมๆ โดยสังเกตได้จากลูกค้าเกือบทุกกลุ่มใช้เงินโฆษณาลดลง รวมถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย ขณะที่เม็ดเงินโฆษณาส่วนของสื่อดั้งเดิมก็ยังมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องโดยเฉพาะสื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อทีวีและปีหน้าอาจจะเป็นครั้งแรกที่จะเห็นการใช้เม็ดเงินโฆษณาในสื่อทีวีเหลือต่ำลงเพียงแค่ 46% จากการใช้เม็ดเงินโฆษณาของสื่อทั้งหมด”
ขณะเดียวกันจากการใช้เม็ดเงินสื่อโฆษณาทีวีที่ลดลงนี้อาจจะส่งผลให้มีช่องทีวีจำนวนหนึ่งปิดตัวลงอีก เนื่องจากไม่สามารถแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวันได้ และในช่วงที่ผ่านมาเริ่มสังเกตเห็นช่องทีวีหลายช่องเริ่มจับมือเป็นพันธมิตรร่วมกันมากขึ้น ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณเตือนของอุตสาหกรรมทีวีที่ต้องการดำเนินธุรกิจให้อยู่รอด ขณะที่สื่อที่น่าจับตามองและยังคงเป็นพระเอก ได้แก่ สื่อออนไลน์ และสื่อนอกบ้าน (Out of Home) ที่น่าจะมีการใช้เม็ดเงินโฆษณามากขึ้น
“ในอดีตเคยมีช่องเพียง 4-5 ช่อง และยังไม่ถูก Disrupt ก็ยังพออยู่ได้ แต่ปัจจุบันมีช่องทีวีจำนวน 15 ช่อง และต้องเผชิญกับเทคโนโลยีที่เข้ามา Disrupt ต่อเนื่องรวมถึงภาวะปัจจัยเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างและประเทศ อีกทั้งปัจจุบันไม่เพียงแค่แข่งขันกับกลุ่มธุรกิจในอุตสาหกรรมทีวีเดียวกันเท่านั้น แต่ยังต้องแข่งกับแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ด้วย”
นายภวัต กล่าวอีกว่า ยอมรับว่าเป็นความท้าทายของคนทุกกลุ่ม ในอดีตวิกฤติต้มยำกุ้งอาจส่งผลกระทบอย่างมากแต่ก็เป็นเพียงคนบางกลุ่มเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ แต่ปัจจุบันเอเยนซี นักการตลาด ผู้ประกอบการ ต้องเผชิญปัญหารอบด้านโดยเฉพาะกำลังซื้อของคนลดลง และผู้บริโภคทุกกลุ่มทั้งในระดับบนและระดับล่างไม่กล้าใช้เงิน ซึ่งในมุมของบริษัทเองก็ต้องคอยติดตามสถานการณ์บ้านเมืองต่อเนื่อง พร้อมทั้งเรียนรู้และปรับเปลี่ยนต่อเนื่องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และ MI เองต้องยืดหยุ่นการทำงาน ในยุคนี้ไม่สามารถมีกฎกติกาตายตัวได้
อย่างไรก็ดี สถานการณ์แนวโน้มปีหน้าในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก หรือ ออฟไลน์ ยังคงน่ากังวลในด้านการซื้อ-ขาย เนื่องจากตัวเลขการซื้อ-ขายดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมาไปเติบโตบนช่องทางอี-คอมเมิร์ซเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่กลุ่มธุรกิจสปา โรงแรม ฯลฯ มีแนวโน้มซึมยาว เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลก อาจจะส่งผลให้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนและยุโรปเข้ามาท่องเที่ยวในไทยลดลง
หน้า 31-32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,532 วันที่ 19-21 ธันวาคม 2562
