ข้อตกลงการค้า ‘เฟส1’ เป้าหมายใหญ่เกินทำได้จริง

23 ธ.ค. 2562 | 05:55 น.

 

ข้อตกลงการค้าเฟส 1 ระหว่างสหรัฐอเมริกา และจีนที่บรรลุกันไปเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2562 กำลังอยู่ในขั้นตอนของการขัดเกลารายละเอียดรวมทั้งสำนวนของข้อความซึ่งจะต้องมีการตีความทางกฎหมาย ทางสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ หรือยูเอสทีอาร์ ออกมายืนยันแล้วว่า ข้อตกลงดังกล่าวสำเร็จลุล่วงแล้วด้วยดี รอการลงนามอนุมัติซึ่งยังไม่กำหนดวัน แต่คาดว่าจะมีขึ้นในเดือนมกราคมปีหน้า (2563) สอดคล้องกับคำแถลงการณ์ของฝ่ายจีนเมื่อเร็วๆ นี้ นำโดยนายเจิ้ง จื่อกวง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายหัน จุน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและกิจการชนบท และนายหว่าง โชวเหวิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และรองผู้แทนการค้าระหว่างประเทศ ที่ออกมายืนยันว่า จีนกับสหรัฐฯได้ตกลงในเนื้อหาของข้อตกลงการค้าฉบับนี้แล้ว และขั้นตอนต่อไปก็คือการลงนาม

 

เนื้อหาหลักที่ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงกันนั้น นอกจากสหรัฐฯยืนยันจะระงับการขึ้นภาษีระลอกใหม่อีก 15% จากสินค้าจีนมูลค่าวงเงินเกือบๆ 160,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งครอบคลุมสินค้าอุปโภคบริโภคหลากรายการรวมทั้งโทรศัพท์มือถือ ของเด็กเล่น และเสื้อผ้า ที่เดิมกำหนดจะมีผลในวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา และยอมลดภาษีศุลกากรให้กับสินค้าจีนอีกล็อตหนึ่งลงมาเหลือ 7.5% เช่นเดียวกับที่จีนก็ยอมลดภาษีที่ขึ้นไปแล้วบางส่วน และเลิกแผนจะเก็บภาษีเพิ่มจากสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ

 

แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นประเด็นสำคัญในข้อตกลงการค้าเฟส 1 และหลายฝ่ายตั้งคำถามว่าจีนจะทำได้ตามที่รับปากหรือไม่ และจะทำอย่างไร นั่นก็คือ การที่จีนตกลงจะเพิ่มปริมาณการนำเข้าสินค้าเกษตร สินค้าอุตสาหกรรม และพลังงานเชื้อเพลิงจากสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่ารวมๆกัน 200,000 ล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลา 2 ปีนับจากนี้ โดยในจำนวนนั้นมีการกล่าวถึงการนำเข้าสินค้าเกษตร 40,000 - 50,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.2 ล้าน-1.5 ล้านล้านบาท ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเป็นการเปิดเผยจากฝ่ายสหรัฐฯ และจีนยังไม่ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้มากนัก

ข้อตกลงการค้า ‘เฟส1’  เป้าหมายใหญ่เกินทำได้จริง

แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดการเจรจาออกมาให้ความเห็นว่า จีนเองรับปากจะนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯเพิ่มขึ้นเป็น 40,000 ล้านดอลลาร์ แต่ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการให้จีนนำเข้าถึงปีละ 50,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นปริมาณมากกว่าที่จีนเคยนำเข้าจากสหรัฐฯในปี 2560 (ก่อนที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะเปิดศึกการค้าระหว่างกัน) ถึง 2 เท่า และเป็นเรื่องที่ยากจะทำได้ในเชิงปฏิบัติ แหล่งข่าวระบุว่า หากจีนต้องนำเข้าสินค้าเกษตรเพิ่มมากขึ้นจากสหรัฐฯในปริมาณขนาดนั้น ก็จะทำให้จีนเองต้องมีปัญหากับประเทศคู่ค้ารายอื่นๆ ที่เป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรป้อนให้กับจีนในปัจจุบัน ซึ่งจีนไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น และหากจีนไม่สามารถทำได้ตามที่ตกลงไว้ในข้อตกลงเฟส 1 สหรัฐฯก็สามารถจะกลับมาใช้มาตรการขึ้นกำแพงภาษีตอบโต้สินค้าจีนได้อีกตลอดเวลา

 

ข้อตกลงเฟส 1 จึงเป็นข้อตกลงที่ช่วยระงับไม่ให้สถานการณ์การเผชิญหน้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ เลวร้ายมากขึ้นไปกว่าเดิม แต่ยังไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันว่า อีกหลากหลายปัญหาการค้าที่คั่งค้างกันอยู่จะยุติลงได้ง่ายๆ ซึ่งรวมถึงเรื่องที่จีนให้การอุดหนุนรัฐวิสาหกิจในการผลิตและส่งออก ทำให้สินค้าจีนได้เปรียบสินค้าคู่แข่งอย่างไม่เป็นธรรม

 

นายติง ลู่ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประเทศจีน จากบริษัทวิจัยโนมูระ ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ขนาดของเป้าหมายการสั่งซื้อสินค้าเกษตรตามที่เป็นข่าวนั้น ยังเป็นตัวเลขที่น่าสงสัยว่าจะทำได้จริงหรือไม่ และดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายจีนเองก็พยายามหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเป้าหมายตัวเลขที่ชัดๆ

ข้อตกลงการค้า ‘เฟส1’  เป้าหมายใหญ่เกินทำได้จริง

สถิติของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ชี้ว่า ในปี 2561 ตัวเลขการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯลดลง นับตั้งแต่ที่ทั้ง 2 ฝ่ายเริ่มตั้งกำแพงภาษีใส่กัน จากเดิมที่จีนเคยเป็นผู้นำเข้าสินค้าเกษตรอันดับ 2 ของสหรัฐฯ ในปี 2560 จีนก็ร่วงอันดับในปีที่ผ่านมา

 

นอกจากนี้ การส่งออกถั่วเหลืองของสหรัฐฯไปยังจีนซึ่งเคยเป็นตลาดใหญ่ที่สุดก็ลดลงในช่วงดังกล่าวเช่นกัน (ดังภาพกราฟิกประกอบ) โดยสหรัฐฯต้องกระจายการส่งออกถั่วเหลืองไปยังประเทศต่างๆ มากขึ้นแต่ปริมาณการส่งออกในภาพรวมก็ยังลดลงมาก (-20%)

 

จีนเคยนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯมากที่สุดคือปีละ 29,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติในปี 2556 นักวิเคราะห์ยังคงข้องใจว่า เป็นไปได้หรือที่จีนจะนำเข้าเพิ่มในระดับปีละ 50,000 ล้านดอลลาร์อย่างที่ประธานาธิบดีทรัมป์คาดหวัง

 

ตัวเลขดังกล่าวอาจดูดีและช่วยให้เขาได้คะแนนนิยมมากขึ้นจากกลุ่มเกษตรกรก่อนที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2563 แต่หลังจากที่จีนออกมาแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาโดยไม่ยืนยันตัวเลขที่ชัดเจน ราคาซื้อขายล่วงหน้าสินค้าเกษตรหลายรายการในตลาดสหรัฐฯก็ปรับลดลง ซึ่งรวมถึงถั่วเหลืองและสุกร ซึ่งเป็นสินค้าหลักที่สหรัฐฯส่งไปตลาดจีน

 

 ข้อตกลงเฟส 1 ที่จะเกิดขึ้นนี้ จึงยังมีข้อน่าสงสัยอยู่อีกมาก ว่าจะปฏิบัติได้จริงมากน้อยเพียงใด หรืออย่างน้อยก็น่าสงสัยจนกว่าฝ่ายรัฐบาลจีนจะออกมายืนยันตัวเลขที่ชัดเจน ข่าวการบรรลุข้อตกลงที่ออกมาจึงถือเป็นการสงบศึกเพียงชั่วคราว แต่ยังไม่อาจสร้างความมั่นใจใดๆ ได้มากนัก

 

หน้า 12 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,532 วันที่ 19-21 ธันวาคม 2562

ข้อตกลงการค้า ‘เฟส1’  เป้าหมายใหญ่เกินทำได้จริง