บุกบ้านเกิด"แอสตัน มาร์ติน"ตะบัน DBS

14 ธ.ค. 2562 | 03:45 น.

ช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ผมมีโอกาสไปเยือนสหราชอาณาจักรกับ “แอสตัน มาร์ติน” แบรนด์รถยนต์ระดับตำนานอายุเกิน100 ปี ที่ปัจจุบันดูแลตลาดในไทยโดย “เอ็มจีซี เอเชีย”

การไปเยือนคราวนี้ได้รับภารกิจเพียบครับ ทั้งเยี่ยมชมเงินก้อนโตที่ลงไปกับทีม “แอสตันมาร์ติน เรดบูล เรซซิ่ง” ณ ฐานบัญชาการใหญ่ที่ มิลตัน คีนส์ ซึ่งนักแข่งมือสองเป็น “อเล็กซ์อัลบอน” ผู้บ่าวตีนระเบิดลูกครึ่งไทย-อังกฤษ

บุกบ้านเกิด"แอสตัน มาร์ติน"ตะบัน DBS บุกบ้านเกิด"แอสตัน มาร์ติน"ตะบัน DBS

ผมได้เห็นการทำงานในแผนกต่างๆ ของทีมโรงงานที่เพิ่งคว้าอันดับ 3 การแข่งขันฟอร์มูล่า วัน ประเภททีมผู้สร้างและชื่นใจตรงที่ทีมงานเขากำลังพัฒนารถให้นักแข่งสัญชาติไทย ที่จะติดธงไตรรงค์ไว้ใช้ฟาดฟันกับ เมอร์เซเดส และ เฟอร์รารี่ ในฤดูกาล 2020

ถัดมาอีกวันต้องไปเยือนสำนักงานใหญ่ และโรงงานผลิตรถยนต์แอสตัน มาร์ติน ที่เกย์ดอน สถานที่แห่งความภูมิใจในประวัติศาสตร์ แม้จะเปลี่ยนยุคผ่านเจ้าของมาหลายสมัย ตั้งแต่ยุครุ่งเรืองของ “เดวิด บราวด์” (ที่มาของชื่อรุ่น DB) และฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ไปจนถึงกลุ่มทุนใหม่จากตะวันออกกลาง ล่าสุดแต่งตัวให้แอสตัน มาร์ติน ลากอนด้า เป็นบริษัทมหาชนเข้าไประดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เป็นที่เรียบร้อย

วันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับ ผมยังไปร่วมงานเปิดโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ ณ เซนต์ เอเธนต์, เวลส์ ที่เตรียมผลิตเอสยูวีรุ่นแรกของค่ายคือ DBX ปลายไตรมาสแรกปีหน้า (Job1) ส่วนการผลิตเต็มรูปแบบและเริ่มส่งมอบให้ลูกค้าต้องรอถึงช่วงไตรมาส 2

บุกบ้านเกิด"แอสตัน มาร์ติน"ตะบัน DBS บุกบ้านเกิด"แอสตัน มาร์ติน"ตะบัน DBS บุกบ้านเกิด"แอสตัน มาร์ติน"ตะบัน DBS บุกบ้านเกิด"แอสตัน มาร์ติน"ตะบัน DBS

ทั้งนี้ การเดินทางไปทุกสถานที่ภายในระยะเวลา 3 วัน ผมและเพื่อนๆ ผู้สื่อข่าวจาก มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม ใช้รถสปอร์ต 3 โมเดล คือ DBS Superleggera เครื่องยนต์วี12 และกลุ่มเครื่องยนต์วี 8 ของเมอร์เซเดส เอเอ็มจี คือรุ่น DB11 กับ Vantage

นักข่าว 6 ชีวิตกับสปอร์ตคาร์ 3 คัน สลับกันขับแบบเอื้อเฟื้อแบ่งปันตลอด 3 วันของการเดินทาง บนสภาพอากาศขมุกขมัว อุณหภูมิเลขตัวเดียว (เจอตํ่าสุด 1 องศา) หมอกหนาในตอนเช้า ฝนปรอยช่วงบ่าย และฟ้ามืดเร็วตั้งแต่ 4 โมงเย็น

สภาพแวดล้อมดูไม่ค่อยเอื้ออำนวย ขณะที่การจราจรหนาแน่นบนถนนไฮเวย์ แม้บางช่วงที่ใช้ความเร็วได้ก็เป็นทางรองถนนแคบๆ (สวนกัน 2 เลน) แทบไม่มีไหล่ทาง โดยเราสลับกันนั่งหลังพวงมาลัยวันละ 200-300 กม. ในแถบมิดแลนด์ของอังกฤษ (และเอียงซ้ายทิศตะวันตกมุ่งไปเวลส์)

บุกบ้านเกิด"แอสตัน มาร์ติน"ตะบัน DBS

บุกบ้านเกิด"แอสตัน มาร์ติน"ตะบัน DBS

ผมได้สัมผัสสปอร์ตคาร์แบรนด์ดัง พร้อมซึมซับวิถีชีวิตของคนบนเกาะเล็กๆ แห่งนี้ได้พอสมควร และตระหนักว่ารถดีๆ อย่าง “แอสตัน มาร์ติน” คงจะคับแคบเกินไปสำหรับประเทศนี้

ไม่แปลกใจครับที่โรงงานใหม่ที่เวลส์จะผลิต DBX (และอีวีในอนาคต) เพื่อส่งออกถึง 90% และน่าจะเป็นสัดส่วนเดียวกับฐานผลิตรถสปอร์ตที่เกย์ดอน, วอร์วิคเชียร์ (โรงงานผลิตรถที่เราขับมา)

ว่ากันที่ตัวท็อป ที่ถือเป็นเฟล็กชิพโมเดลของแอสตัน มาร์ติน จริงๆ เปิดตัวตั้งแต่ปี 2018 เมืองไทยได้โควตามา 4 คัน เปิดตัวในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา พื้นฐานการพัฒนาเดียวกันซูเปอร์จีทีรุ่น ดีบี 11 (เปิดตัวปี 2016) แต่ DBS Super leggera ปรับปรุงหลักอากาศพลศาสตร์ให้ดีขึ้น พร้อมเพิ่มแรงกดให้สอดคล้องกับพละกำลังมหาศาล

ขณะที่โอเวอร์แฮงก์สั้นลง มีความกว้างมากขึ้น ตัวถังที่ขึ้นรูปจากอะลูมิเนียมกับคาร์บอนไฟเบอร์เป็นส่วนผสม ตัวรถนํ้าหนักเบากว่า DB11 ถึง 30 กิโลกรัม ตามชื่อ Superleggera ซึ่งเป็นภาษาอิตาลีความหมายว่านํ้าหนักเบา Superlight

รถจีทีเครื่องยนต์วางหน้า เบาะ 2+2 ที่นั่ง (2 ที่นั่งหลังแคบมาก) ดูจากขุมพลัง วี 12 และสเปกต่าง ๆ น่าจะสูสีกับเฟอร์รารี่ 812 ซูเปอร์ฟาสต์ละครับ ทว่าม้าของอิตาลีจัดมา 800 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 6.5 ลิตรแบบไม่พึ่งพาเทอร์โบ ขับดุเดือดดีทีเดียว (ผมไปขับ 2 ปีก่อนที่อิตาลี) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 2.9 วินาที

ส่วน DBS Superleggera กับขุมพลัง วี12 ขนาด 5.2 ลิตร เทอร์โบคู่ 715 แรงม้า แรงบิด 900 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดของ ZF อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 3.4 วินาที สมรรถนะเด็ดดวงดุดัน ไม่แพ้ม้าลำพองจากมาราเนลโล

บุกบ้านเกิด"แอสตัน มาร์ติน"ตะบัน DBS

ทริปนี้โชคดีที่ UK ขับรถพวงมาลัยขวาชิดทางซ้ายเหมือนบ้านเรา เลยไม่ต้องปรับตัวกันมาก ส่วนความเร็วบนไฮเวย์จำกัดไว้ 70 ไมล์/ชม.(112 กม./ชม.) ทำให้การขับไม่ได้ระเบิดพลังออกมาเต็มๆ โดยบุคลิกของ DBS Superleggera ขยับความเกรี้ยวกราดมากขึ้น รถออกอาการสะดุ้งทุกครั้งเมื่อเพิ่มแรงกดของเท้าขวาลงไปที่แป้นคันเร่ง

สำหรับโหมดการขับขี่มีให้เลือกคือ GT (นุ่มสุด) Sport และ Sport Plus ที่ปรับการตอบสนองของเครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง พร้อมเสียงท่อ “ปังๆ” ในโหมดสปอร์ตขั้นสุด (แต่คนขับเลือกปรับความหนืดโช้กอัพ แยกออกมาต่างหากจากโหมดการขับขี่ได้ ด้วยปุ่มสั่งงานบนพวงมาลัย)

บุกบ้านเกิด"แอสตัน มาร์ติน"ตะบัน DBS บุกบ้านเกิด"แอสตัน มาร์ติน"ตะบัน DBS

รถพลังเหลือเฟือ ช่วงล่างเด้งสะท้านชัดเจนในโหมดสปอร์ต พร้อมล้อขนาด 21 นิ้ว ประกบยางหน้ากว้าง 265/35 R21 ในคู่หน้าและ 305/30 R21 ในคู่หลัง ห้ามปรามพลังด้วยจานเบรกคาร์บอนเซรามิก หน้า 410 หลัง 360 มม. ซึ่งในภาพรวมดูจะคึกคะนองและควบคุมยากกว่า DB11 เครื่องยนต์ วี8 เล็กน้อย

รวบรัดตัดความ...คู่แข่งในระดับใกล้เคียงกันอย่าง เฟอร์รารี่ 812 Superfast ราคา 31.5 ล้านบาท ส่วน DBS Superleggera ราคาเริ่มต้น 28.9 ล้านบาท ซึ่งใครอยากได้ออพชันเพิ่มในส่วนของสมรรถนะ หรือการตกแต่งภายนอก-ภายในสามารถเลือกได้ กับรถสปอร์ตสุดขั้วแต่ละเอียดอ่อนในการผลิตทุกขั้นตอน

คอลัมน์เทสต์ไดร์ฟ

โดย : กรกิตกสิคุณ

บุกบ้านเกิด"แอสตัน มาร์ติน"ตะบัน DBS

 

หน้า 28 -29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 3,531 วันที่ 15 - 18 ธันวาคม พ.ศ. 2562